คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2433/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยรับฝากอาวุธปืนเอ็ม 79 กระสุนปืนและลูกระเบิดของกลางไว้จาก ส. ทหารพราน เมื่อตำรวจมาถาม จำเลยตอบว่าไม่รู้ ครั้นตำรวจพา ส. มาพบจำเลย จำเลยจึงพาไปเอาปืนและกระสุนที่กระท่อมนาของจำเลยและตำรวจค้นพบลูกระเบิดหมกอยู่ในกองแกลบใต้ถุนบ้านจำเลยการที่จำเลยปิดบังและซุกซ่อนของกลาง แสดงว่าจำเลยทราบดีอยู่แล้วว่าเป็นของที่ ส. มีไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยจึงมีความผิดตาม พระราชบัญญัติ อาวุธปืนฯ

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯพ.ศ. 2490 มาตรา 55, 78 จำคุก 6 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ‘ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยได้รับฝากอาวุธปืนเอ็ม 79 กระสุนปืน 6 นัด และลูกระเบิด 1 ลูกของกลางจากนายสุคำหรือจันทร์แก้ว สุรินตา จริง มีปัญหาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องหรือไม่ จำเลยฎีกาว่า จำเลยไม่ทราบว่านายสุคำ หรือจันทร์แก้ว สุรินตาถูกไล่ออกจากการเป็นทหารพรานแล้ว และไม่ทราบว่าอาวุธปืนของกลางเป็นอาวุธที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีเจตนากระทำผิด ศาลฎีกาเห็นว่า นายดาบตำรวจใบ พินิจพงษ์ และสิบตำรวจโทศรีรัตน์ บังบานพยานโจทก์ซึ่งร่วมจับกุมจำเลยเบิกความสอดคล้องต้องกันว่าเมื่อไปถึงบ้านจำเลยได้สอบถามจำเลยว่า อาวุธปืนที่นายจันทร์แก้วเอามาฝากไว้อยู่ที่ไหนจำเลยตอบว่าไม่รู้ ครั้นนายดาบตำรวจใบนำนายสุคำหรือจันทร์แก้วมาพบกับจำเลยและนายสุคำหรือจันทร์แก้วบอกให้จำเลยเอาปืนคืนให้เจ้าพนักงานตำรวจ จำเลยจึงพาเจ้าพนักงานตำรวจไปเอาปืนเอ็ม 79 และกระสุนปืน 6 นัดของกลางที่กระท่อมนาของจำเลย หลังจากนั้นนายดาบตำรวจใบถามจำเลยถึงลูกระเบิดของกลาง จำเลยก็บอกว่าไม่รู้ นายดาบตำรวจใบกับพวกจึงตรวจค้นบ้านจำเลย และค้นพบลูกระเบิดของกลางหมกอยู่ในกองแกลบใต้ถุนบ้านจำเลย ดังนี้ การที่จำเลยบอกเจ้าพนักงานตำรวจว่าไม่รู้เรื่องอาวุธปืนกระสุนปืน และลูกระเบิดของกลาง ทั้ง ๆ ที่จำเลยได้รับฝากของกลางดังกล่าวจากนายสุคำหรือจันทร์แก้วจริงย่อมแสดงให้เห็นว่า จำเลยทราบดีอยู่แล้วว่าของกลางดังกล่าวเป็นของที่นายสุคำหรือจันทร์แก้วมีไว้ในครอบครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ถ้าหากจำเลยเข้าใจโดยสุจริตว่าของกลางดังกล่าวเป็นของที่นายสุคำหรือจันทร์แก้วครอบครองไว้โดยชอบด้วยกฎหมายโดยเป็นอาวุธปืนประจำตัวนายสุคำหรือจันทร์แก้วในฐานะเป็นทหารพรานแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลประการใดที่จำเลยจะต้องปิดบังเจ้าพนักงานตำรวจเมื่อสอบถามจำเลย และไม่จำเป็นจะต้องซุกซ่อนหมกลูกระเบิดของกลางไว้ในกองแกลบแต่อย่างใด การที่จำเลยปิดบังและซุกซ่อนของกลางดังกล่าว แสดงให้เห็นเจตนาว่าจำเลยทราบดีอยู่แล้วว่าของกลางดังกล่าวเป็นของที่นายสุคำหรือจันทร์แก้วมีไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ฉะนั้น ที่จำเลยนำสืบว่าไม่ทราบว่าของกลางเป็นอาวุธที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายจำเลยไม่มีเจตนากระทำผิด จึงไม่มีน้ำหนักรับฟัง จำเลยมีความผิดตามฟ้อง’

พิพากษายืน

Share