คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6726/2547

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยของเงินต้นแต่ละช่วงเวลาจนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้อง จำเลยต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาตามทุนทรัพย์ทั้งในส่วนของต้นเงินและดอกเบี้ยของเงินต้นแต่ละช่วงเวลาดังกล่าวนับถึงวันฟ้องด้วย แต่จำเลยเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาเฉพาะตามทุนทรัพย์ในส่วนของต้นเงินยังขาดในส่วนของดอกเบี้ย เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นเรียกค่าขึ้นศาลที่ขาดอยู่จากจำเลยให้ครบถ้วน และศาลชั้นต้นมีหมายแจ้งให้จำเลยชำระค่าขึ้นศาลที่ยังขาดอยู่แล้ว แต่จำเลยเพิกเฉยไม่ยอมชำระ กรณีถือได้ว่าจำเลยเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนด เป็นการทิ้งฟ้องฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 174 (2) ประกอบมาตรา 246 และมาตรา 247

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 1,727,165 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 754,655 บาท นับแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2540 ของต้นเงิน 830,940 บาท นับแต่วันที่ 5 มกราคม 2541 และของต้นเงิน 141,570 บาท นับแต่วันที่ 19 มีนาคม 2541 ตามลำดับ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความในศาลชั้นต้นจำนวน 10,000 บาท ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์จำนวน 3,000 บาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกามีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยชำระค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกาที่ขาดอยู่ให้ครบถ้วนภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยชำระค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาตามทุนทรัพย์ในส่วนของดอกเบี้ยนับถึงวันฟ้องภายในวันที่ 2 ธันวาคม 2547 จำเลยได้รับหมายแจ้งคำสั่งของศาลชั้นต้นแล้วแต่มิได้นำเงินค่าขึ้นศาลชั้นฎีกามาชำระภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดศาลชั้นต้นจึงส่งสำนวนคืนมายังศาลฎีกาเพื่อพิจารณา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 1,727,165 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 754,655 บาท นับแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2540 ของต้นเงิน 830,940 บาท นับแต่วันที่ 5 มกราคม 2541 และของต้นเงิน 141,570 บาท นับแต่วันที่ 19 มีนาคม 2541 จนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้อง จำเลยจึงต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาตามทุนทรัพย์ทั้งในส่วนของต้นเงินจำนวน 1,727,165 บาท และดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินทั้งสามรายการดังกล่าวนับถึงวันฟ้องด้วย แต่จำเลยเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกามาเฉพาะตามทุนทรัพย์ในส่วนของต้นเงิน ยังขาดในส่วนของดอกเบี้ย เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นเรียกค่าขึ้นศาลที่ยังขาดอยู่จากจำเลยให้ครบถ้วนและศาลชั้นต้นได้มีหมายแจ้งให้จำเลยชำระค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาที่ยังขาดอยู่แล้ว แต่จำเลยเพิกเฉยไม่ยอมชำระ กรณีถือได้ว่าจำเลยเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนด เป็นการทิ้งฟ้องฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 174 (2) ประกอบด้วย มาตรา 246 และมาตรา 247
ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลฎีกา ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share