แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
อ.เป็นพนักงานของธนาคารทำหน้าที่แทนธนาคารจ่ายเงินให้จำเลยไป เงินที่ อ. จ่ายไปเป็นเงินของธนาคารไม่ใช่เงินของ อ. ธนาคารจึงเป็นผู้เสียหาย การที่ อ. ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องจ่ายเงินผิดพลาดไปและนำเงินส่วนตัวมาเข้าบัญชีที่จ่ายผิดไป เป็นความรับผิดชอบระหว่าง อ. กับธนาคารหาทำให้ อ. เป็นผู้เสียหายที่จะมีอำนาจร้องทุกข์แก่เจ้าพนักงานไม่ การที่ อ.ร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีฐานยักยอกแก่จำเลยจึงไม่เป็นการร้องทุกข์มอบคดีโดยผู้เสียหายตามระเบียบ พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสอบสวนโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยครอบครองเงินสด ๔๕,๐๐๐ บาท ของนายอภิชัยไว้โดยนายอภิชัยส่งมอบให้โดยสำคัญผิด จำเลยได้เบียดบังยักยอกเอาเงินจำนวนดังกล่าวไปโดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๒ ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาเงินสด๔๕,๐๐๐ บาทแก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๕๒ วรรค ๒ ให้จำคุก กับให้จำเลยคืนหรือใช้เงิน ๔๕,๐๐๐บาทแก่ผู้เสียหาย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า เช็คเอกสารหมาย จ.๒ นายไสวเป็นผู้สั่งจ่าย โดยสั่งธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาจันทบุรีจ่ายเงิน ๔๕,๐๐๐ บาทให้ผู้ถือ จำเลยเป็นผู้ทรงเช็คได้นำเช็คดังกล่าวมายื่นแก่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯ เพื่อให้ใช้เงินตามเช็ค นายอภิชัยเป็นพนักงานของธนาคารทำหน้าที่แทนธนาคารจ่ายเงิน ๔๕,๐๐๐ บาทให้จำเลยไปแล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า เงินที่นายอภิชัยจ่ายไปเป็นเงินของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ฯ ไม่ใช่เงินของนายอภิชัย ดังนี้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ฯ จึงเป็นผู้เสียหาย การที่นายอภิชัยปฏิบัติหน้าที่บกพร่องจ่ายเงินผิดพลาดไปและนำเงินส่วนตัวมาเข้าบัญชีที่จ่ายผิดไป ก็เป็นความรับผิดชอบอีกเรื่องหนึ่งระหว่างนายอภิชัยกับธนาคารไม่ทำให้นายอภิชัยเป็นผู้เสียหายที่จะมีอำนาจร้องทุกข์มอบคดีแก่เจ้าพนักงานได้ รวมบันทึกการมอบคดีความผิดอันยอมความกันได้เอกสารหมาย จ.๑ เป็นเรื่องระหว่างนายอภิชัยในฐานะส่วนตัวร้องทุกข์มอบคดีความผิดอันยอมความกันได้ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีนี้แก่จำเลย จึงไม่เป็นการร้องทุกข์มอบคดีโดยผู้เสียหายตามระเบียบ พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสอบสวน โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๒๐, ๑๒๑
พิพากษายืน.