คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2429/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยยื่นคำให้การและฟ้องแย้งซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับไว้แล้วคำให้การและฟ้องแย้งของจำเลยจึงชอบด้วยกฎหมาย ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การและฟ้องแย้ง ศาลชั้นต้นเห็นว่าเยิ่นเย้อ และสับสน มีคำสั่งให้จำเลยทำรวมเป็นฉบับเดียวกันใน 15 วันจำเลยได้ทำคำให้การและฟ้องแย้งยื่นมาใหม่ภายในกำหนด ถือได้ว่าจำเลยปฏิบัติตามเงื่อนไขและกำหนดเวลาที่ศาลชั้นต้นสั่งแล้วแม้คำให้การและฟ้องแย้งของจำเลยที่ยื่นมาใหม่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมแล้วจะยืดยาวแต่สามารถอ่านเข้าใจได้ ศาลชั้นต้นชอบที่จะรับคำให้การและฟ้องแย้งของจำเลยไว้.

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าเครื่องหมายการค้าของโจทก์ไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของจำเลยและให้นายทะเบียนเครื่องหมายการค้ารับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ จำเลยยื่นคำให้การและฟ้องแย้ง ศาลชั้นต้นสั่งรับคำให้การและฟ้องแย้งของจำเลยไว้พิจารณาแล้วต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การและฟ้องแย้ง ศาลชั้นต้นเห็นว่าคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การและฟ้องแย้งเยิ่นเย้อและสับสน จึงมีคำสั่งให้จำเลยทำคำให้การและฟ้องแย้งฉบับนี้รวมกับคำให้การและฟ้องแย้งฉบับเดิมรวมมาเป็นฉบับเดียวกันภายใน 15 วัน มิฉะนั้นจะไม่รับคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การและฟ้องแย้งฉบับนี้ จำเลยจึงได้ทำคำให้การและฟ้องแย้งยื่นเข้ามาใหม่ภายในกำหนดเวลาที่ศาลชั้นต้นสั่ง แต่ศาลชั้นต้นเห็นว่าคำให้การและฟ้องแย้งที่ยื่นเข้ามาใหม่นั้นเป็นเพียงเอาคำให้การและฟ้องแย้งฉบับเดิมและที่ได้แก้ไขเพิ่มเติมมารวมกันเท่านั้น คำให้การและฟ้องแย้งฉบับนี้ยังเยิ่นเย้อฟุ่มเฟือยเหมือนเดิม ถือว่าจำเลยมิได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาลในระยะเวลาหรือเงื่อนไขที่ศาลกำหนดไว้ จึงสั่งไม่รับคำให้การและฟ้องแย้งทุกฉบับของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นให้รับคำให้การและฟ้องแย้งของจำเลยไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำให้การและฟ้องแย้งทุกฉบับของจำเลยชอบหรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อโจทก์ยื่นฟ้อง จำเลยได้ยื่นคำให้การและฟ้องแย้ง ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับคำให้การและฟ้องแย้งของจำเลยไว้แล้ว คำให้การและฟ้องแย้งของจำเลยจึงชอบด้วยกฎหมายแม้ต่อมาจำเลยได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การและฟ้องแย้งและศาลชั้นต้นเห็นว่า คำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การและฟ้องแย้งเยิ่นเย้อและสับสน จึงมีคำสั่งให้จำเลยทำคำให้การและฟ้องแย้งรวมเป็นฉบับเดียวกันภายใน 15 วัน มิฉะนั้นจะไม่รับคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การและฟ้องแย้งของจำเลย เมื่อปรากฏว่าจำเลยได้ทำคำให้การและฟ้องแย้งใหม่โดยเอาคำให้การและฟ้องแย้งเดิมและที่แก้ไขเพิ่มเติมมารวมเป็นฉบับเดียวกันและยื่นต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนดถือได้ว่าจำเลยได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขและกำหนดเวลาที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งแล้ว ศาลฎีกาเห็นว่า คำให้การและฟ้องแย้งของจำเลยที่ยื่นใหม่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมแล้ว แม้จะยืดยาวแต่สามารถอ่านเข้าใจได้ศาลชั้นต้นชอบที่จะรับคำให้การและฟ้องแย้งของจำเลยดังกล่าวไว้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้รับคำให้การและฟ้องแย้งของจำเลยไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share