แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สำเนาไบเส็ดรับเงินที่ออกไห้+ผู้ชำระเงินเินกว่า 5 บาทนั้นไม่ไช่ตราสารคู่ฉีกหรือคู่ฉบับของ+รับเงินตามกดหมาย ไม่ต้องติดอากรสแตมป์
ย่อยาว
โจทฟ้องว่าจำเลยทำไบรับเงินสดออกไห้แก่ผู้ซื้อมีมูลค่าเดิมกว่า ๕ บาทไนกิจการค้าของจำเลย และได้ทำตราสารคู่ฉีกหรือคู่ฉบับขึ้นด้ย แต่จำเลยไม่ติดอากรสแตมป์ไนตราสารคู่ฉีกหรือคู่ฉบับของไบรับเงิน ขอไห้ลงโทสตามประมวนรัสดากร ๒๔๘๑ มาตรา ๑๐๔,๑๑๐,๑๒๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๔๘๒ มาตรา ๒๓
ได้ความว่าไนการที่จำเลยเขียนไบเส็ดรับเงินฉบับหนึ่งนั้น จำเลยได้อัดสำเนาไว้ด้วยโดยเวลาเขียนต้นฉบับนั้นเอาคาร์บอนคั่นกลางระหว่างกะดาดอีกแผ่นหนึ่ง เพื่อไห้เปนสำเนาสำหรับเก็บไว้เปนหลักถานไนกิจการของบริสัท เอกสารที่อัดเปนสำเนานี้โจทถือว่าเปนคู่ฉีกหรือคู่ฉบับของไบเส็ดรับเงินต้นฉบับ
สาลชั้นต้นและสาลอุธรน์พิพากสายกฟ้องโดยวินิฉัยว่า กะดาดแผ่นที่สอนซึ่งคาร์บอนคั่นกลางนั้นเปนแต่สำเนา ไม่ไช่คู่ฉีกหรือคู่ฉบับของแผ่นที่หนึ่ง จำเลยไม่มีผิด
โจทดีกา สาลดีกาเห็นว่าเอกสารแผ่นที่สองนี้ไม่ไช่คู่ฉีกหรือคู่ฉบับของเอกสารแผ่นที่หนึ่ง เพราะเอกสารสองฉบับนี้มีข้อความไม่หย่างเดียวกัน และรอยแห่งลายมือชื่อผู้รับเงินที่ปรากตไนเอกสารแผ่นที่สองนั้นเกิดจากการเซ็นชื่อซึ่งเขียนไนขนะเดียวกันกดหรืออัดลงบนเอกสารแผ่นที่หนึ่งและที่สองโดยมีคาร์บอนคั่นกลาง รอยแห่งลายเซ็นชื่อเช่นนี้หาไช่ลักสนะของลายมือชื่อที่ผู้นั้นเจตนาจะลงไห้ไว้เปนหลักถานสำหรับก่อไห้เกิดเปนตราสารขึ้นไม่ พรึติการน์แห่งคดีเห็นได้ชัดว่าเจตนาจะไห้เปนสำเนาฉเพาะตามข้อความที่เขียน อัดลงไว้เท่านั้น จึงพิพากสา
ยืนตามสาลล่าง