คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1204/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในกรณีเกี่ยวกับหนี้เหนือบุคคล ถ้าจำเลยเป็นชาวต่างประเทศและอยู่ในต่างประเทศ ไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทยแม้มูลกรณีจะเกิดในเขตศาลไทยหรือจำเลยมีทรัพย์อยู่ในเขตศาลนั้น โจทก์ก็ไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยต่อศาลไทย จนกว่าจำเลยจะได้เข้ามาในประเทศไทย และศาลจะดำเนินคดีต่อไปได้ก็ต่อเมื่อได้ส่งหมายเรียกให้แก่จำเลยแล้ว
การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลในเมืองต่างประเทศตามมาตรา 34 นั้น ใช้ในกรณีที่ศาลรับฟ้องของโจทก์ไว้โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว แต่ศาลจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาในต่างประเทศซึ่งศาลอาจขอร้องให้รัฐบาลต่างประเทศจัดการให้ตามความสัมพันธ์ทางการต่างประเทศได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกค่าจ้างว่าความจากจำเลย ซึ่งเป็นชาวต่างประเทศและไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คดีนี้เป็นเรื่องหนี้เหนือบุคคล จำเลยไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย และไม่ได้เข้ามาในประเทศไทยชั่วคราว ไม่มีอำนาจรับฟ้องไว้พิจารณาไม่รับฟ้อง และไม่อนุญาตให้ฟ้องที่ศาลจังหวัดสงขลา

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ในกรณีเกี่ยวกับหนี้เหนือบุคคล จำเลยเป็นคนชาติเยอรมันอยู่ในประเทศเยอรมันนีตะวันตก และไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทยในเวลาที่โจทก์ยื่นฟ้องแม้มูลกรณีนี้จะเกิดในเขตศาลจังหวัดสงขลา หรือจำเลยมีทรัพย์อยู่ในเขตศาลจังหวัดสงขลา โจทก์ก็ฟ้องในศาลไทย ไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4(3) โจทก์ยังไม่มีสิทธิฟ้องต่อศาลไทยจนกว่าจำเลยจะได้เข้ามาในประเทศไทย และศาลจะดำเนินคดีต่อไปได้เมื่อได้ส่งหมายเรียกให้แก่จำเลยแล้ว

ส่วนการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลในเมืองต่างประเทศตามมาตรา 34 นั้น เห็นว่าใช้ในกรณีที่ศาลรับฟ้องของโจทก์ไว้โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว แต่ศาลจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาในต่างประเทศซึ่งศาลอาจขอร้องให้รัฐบาลต่างประเทศจัดการให้ตามความสัมพันธ์ทางการต่างประเทศ ส่วนคดีของโจทก์ศาลไม่รับฟ้อง ไม่มีการจะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป

พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์

Share