แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สำคัญผิดในสาระสำคัญโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ตนจะถือเอาประโยชน์ในการผิดหลงไม่ได้ พ.ร.บ. ออกโฉนดที่ดิน ม.39,41,42,44 ผู้ขายชี้ที่ให้ผู้ซื้อเข้าปกครองผิดจากเนื้อที่ในโฉนดไขว้กัน ได้กรรมสิทธิตามหน้าโฉนด
ย่อยาว
มีที่ดิน ๒ โฉนด ๆ ที่ ๘๙๙ เนื้อที่ ๖๓ ไร่เศษและโฉนดที่ ๘๗๔ เนื้อที่ ๕๓ ไร่เศษ โจทก์รับโอนโฉนดที่ ๘๙๙ แต่ปกครองเนื้อที่ในโฉนดที่ ๘๗๔ ฝ่ายจำเลยรับโอนโฉนดที่ ๘๗๔ แต่ปกครองเนื้อที่ในโฉนดที่ ๘๙๙ จึงได้เกิดฟ้องร้องขอให้โอนโฉนดที่ ๘๙๙ ให้จำเลย
ศาลฎีกาเห็นว่าตาม พรบ ออกโฉนดที่ดิน ร.ศ. ๑๒๗ ม.๓๙-๔๑-๔๒-๔๔ โจทก์ได้รับโอนโฉนดและรับกรรมสิทธิที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมายถึงแม้จะไม่ได้ปกครองที่นั้นก็ยังไม่ขาดกรรมสิทธิ เพราะตั้งแต่ซื้อมาก็เพียง ๖ ปีเศษเท่านั้น ฝ่ายจำเลยถึงแม้จะตั้งใจซื้อที่ดิน ๖๓ ไร่ แต่ไปรับโฉนดที่ ๘๗๔ สำหรับที่ ๕๓ ไร่ ก็เปนความผิดของจำเลยเองไม่ตรวจตราโฉนดให้ถูกต้อง จำเลยหามีกรรมสิทธิในที่นา ๖๓ ไร่ (คือโฉนดที่ ๘๙๙) เมื่อการซื้อขายที่ดินได้โอนโฉนดถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ผู้ซื้อย่อมได้กรรมสิทธิ เพราะฉะนั้นโจทก์ได้กรรมสิทธิในโฉนดที่ ๘๙๙ และจำเลยได้กรรมสิทธิในโฉนดที่ ๘๗๔ จึงตัดสินห้ามไม่ให้จำเลยเกี่ยวข้องในที่นาโฉนดที่ ๘๙๙ (นา ๖๓ ไร่เศษ)