คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1920/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่อธิบดีศุลกากรที่สั่งขายทอดตลาดของที่ยึดตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้ แม้ต่อมาศาลจะสั่งไม่ริบของที่ยึดนั้นก็ตาม คำสั่งของอธิบดีที่สั่งขายไปนั้นก็ยังเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ฉะนั้นเมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ขายของที่ยึดนั้นไปตามคำสั่งของอธิบดีศุลกากรดังกล่าว จึงหาเป็นการละเมิดต่อเจ้าของทรัพย์ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มอบลูกช้างพลาย ๑ เชือกให้นายสงัดเลี้ยงรักษา จำเลยที่ ๒ กับพวกจับนายสงัดหาว่านำลูกช้างจากพม่าเข้ามาไม่ผ่านด่านเพื่อเสียภาษี และได้ขายทอดตลาดลูกช้างของโจทก์ไป เป็นการละเมิดขอให้ศาลบังคับจำเลยคืนหรือใช้ราคา ๑๕,๐๐๐ บาทแก่โจทก์
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยไม่ปฏิบัติราชการไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยที่ ๑ สั่งขายทอดตลาดข้างของกลางนั้น เข้าเกณฑ์ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.๒๔๖๙ มาตรา ๒๕ วรรค ๒ เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติศุลกากร(ฉบับที่ ๙) พ.ศ.๒๔๘๒ มาตรา ๕ ซึ่งให้อำนาจอธิบดีกรมศุลกากรที่จำเลยที่ ๑ สั่งขายก่อนที่ศาลจะสั่งริบได้ แม้ต่อมาศาลจะสั่งไม่ริบข้างของกลางก็ตาม คำสั่งของอธิบดีศุลกากรที่สังให้ขายไปแล้วนั้น ก็ยังเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย จะถือว่าเป็นการละเมิดต่อโจทก์ไม่ได้ จำเลยที่ ๒ ทำการขายไปตามคำสั่งของจำเลยที่ ๑ ซึ่งมีอำนาจสั่งให้ขายได้โดยชอบ การกระทำของจำเลยที่ ๒ จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการละเมิดต่อโจทก์เช่นเดียวกัน
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์

Share