แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้กรรมการตรวจฎีกาจำเลย อุทธรณคำพิพากษา ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษ
ย่อยาว
คดีนี้โจทย์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน พ..๒๔๖๑ เวลากลางวัน นายนินเจ้าทรัพย์ได้มอบกระบือ ๕๘ กระบือให้นายหมาจำเลยซึ่งเปนลูกจ้างไปเลี้ยง เมื่อนายหมาได้รับกระบือไปแล้วได้สมคบกับนายแฉ่งจำเลยซึ่งเปนบิดานายหมาลักฤายักยอกเอากระบือเสียทั้ง ๕๘ กระบือโดยเจตนาทุจจริตเจ้าทรัพย์ยังไม่ได้ของกลางคืน ขอให้ศาลลงโทษจำเลยฐานลักฤายักยอกกระบือ ฯ
นายหมาจำเลยให้การว่า นายนินได้มอบกระบือฝูงนี้ ๔๓ กระบือให้นายหมาไปเลี้ยง แต่นายหมาไปไถนาเสียได้มอบให้นายแฉ่งบิดาเอาไปเลี้ยงแทน นายแฉ่งจะทำกระบือหายฤาอย่างไรไม่ทราบ ฯ
นายแฉ่งจำเลยให้การว่า จำเลยให้นายหมาไปไถนาแทนตัว แล้วรับเอากระบือมาเลี้ยงแทนนายหมา แต่จำเลยได้ละฝูงกระบือโดยไปซื้อพลูเสีย เมื่อกลับมาเห็นกระบือหายไปหมด ฯ
ศาลจังหวัดนครนายกพิจารณาคดีแล้วเห็นว่า คดีมีข้อวินิจฉัยอยู่ว่านายหมาเปนลูกจ้างรับเอากระบือ ๕๘ กระบือราคา ๒๑๖๕ บาทของนายนินไปเลี้ยง แล้วไม่ไปเลี้ยงตามนายนินสั่ง กลับมอบกระบือให้นายแฉ่งไปเลี้ยงแทน แล้วนายแฉ่งเอากระบือของนายนินไปสูญเสียเช่นนี้ นายแฉ่งแสดงไม่ได้ว่าการที่กระบือหายได้หายไปโดยอย่างไร แลนายแฉ่งไม่รีบร้อนติดตามโดยสมควร นายแฉ่งย่อมมีความผิดฐานยักยอกตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๓๑๙ ข้อ ๑ แต่นายหมานั้นไม่มีพิรุธพอว่าคบคิดกับนายแฉ่งยักยอกกระบือรายนี้ ไม่มีความผิด จึงพิพากษาให้จำคุกนายแฉ่ง ๓ ปี แลให้ใช้ราคากระบือแก่เจ้าทรัพย์อีกด้วย ฯ
นายแฉ่งอุทธรณ ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษพิจารณาแล้วลงความเห็นว่า กิริยาที่นายแฉ่งจำเลยไล่ฝูงกระบือของนายนินไปจากนายหมา โดยนายหมายินยอม แต่นายแฉ่งจำเลยไม่ได้รับมอบหมายจากนายนินเจ้าทรัพย์ ความผิดของนายแฉ่งจึงมีในฐานลักสัตว์พาหนะตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๙๖ แต่ที่ศาลเดิมลงโทษนายแฉ่งฐานยักยอกเปนโทษอันเบาดีแก่นายแฉ่งอยู่แล้ว จึงไม่แก้ไข คงพิพากษายืนตามศาลล่าง ฯ
จำเลยทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกาข้อกฎหมายว่า เท่าข้อความที่กล่าวมาข้างต้นจำเลยไม่มีความผิดฐานยักยอกฤาฐานลักทรัพย์นั้นเลย ฯ
กรรมการศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนแลปฤกษาคดีนี้ เห็นว่าพยานโจทย์สืบไม่ได้ความว่าจำเลยได้ปิดบังซ่อนเร้นกระบือไว้ฤาจำหน่ายขายโดยเจตนาทุจจริต เพียงเท่าที่ได้ความตามคำให้การจำเลยว่ากระบือหาย ไม่พอจะลงโทษจำเลยฐานยักยอกฤาฐานลักทรัพย์ได้ แม้จำเลยจะมีพิรุธที่ไม่รีบร้อนติดตามกระบือโดยสมควรแก่การ ก็ยังไม่เปนเหตุสันนิษฐานว่าจำเลยได้ยักยอกกระบือไว้โดยเจตนาทุจจริต ฤาได้ลักกระบือไปให้ขาดกรรมสิทธิแห่งความยึดถือของเจ้าของ ฎีกาจำเลยฟังขึ้น จึงพิพากษาว่าให้ยกคำพิพากษาศาลล่าง แลยกฟ้องโจทย์เสีย ให้ปล่อยจำเลยพ้นข้อพิภาษไป ฯ
วันที่ ๒๓ กรกฎาคม พระพุทธศักราช ๒๔๖๓