คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2418/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยใช้มีดสำหรับปอกผลไม้ใบมีดกว้างครึ่งนิ้วยาว 4 นิ้ว แทงผู้เสียหายที่ชายโครงด้านซ้าย 1 ครั้ง บาดแผลลึกเพียง 2 เซนติเมตร ยาว 1.5 เซนติเมตร แทงขณะจำเลยเมาสุราแล้วปล่อยมีดหลบหนีไป แสดงว่าไม่ต้องการแทงซ้ำ ผู้เสียหายทำแผลแล้วแพทย์ให้กลับบ้านได้และไปทำแผลอยู่ 4 วัน ก็ไม่ต้องไปอีก แสดงว่าบาดเจ็บเล็กน้อย ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยแทงโดยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายจำเลยเจตนาทำร้ายร่างกายเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ใช้มีดปลายแหลมแทงผู้เสียหาย ๑ ครั้งโดยเจตนาฆ่า แต่แพทย์รักษาทันท่วงที ผู้เสียหายจึงไม่ถึงแก่ความตาย เพียงแต่ได้รับอันตรายแก่กาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕, ๒๘๘, ๘๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘, ๘๐ จำคุก ๑๐ ปี จำเลยรับสารภาพชั้นจับกุม ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๖ ปี ๘ เดือน ข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕ จำคุก ๖ เดือน ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๔ เดือน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยใช้มีดขนาดเล็ก เป็นมีดสำหรับปอกผลไม้แทงผู้เสียหายไม่แรงเพียง ๑ ครั้ง บาดแผลลึกเพียง ๒ เซนติเมตร ยาว ๑.๕ เซนติเมตร ไม่ทะลุถึงปอด แทงขณะจำเลยเมาสุราแล้วปล่อยมีดหลบหนีไปแสดงว่าไม่ต้องการแทงซ้ำ ผู้เสียหายได้รับการทำแผลแล้วแพทย์ให้กลับบ้านได้และเพียงไปทำแผลอยู่ ๔ วัน ก็ไม่ต้องไปอีก แสดงว่าบาดเจ็บเล็กน้อย ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยแทงโดยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย จำเลยเพียงมีเจตนาทำร้ายร่างกายเท่านั้น ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share