คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2415/2545

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่จำเลยเข้าไปในตึกแถวคูหาหนึ่งและปีนขึ้นไปบนหลังคาของตึกแถวอีกคูหาหนึ่ง เพื่อสำรวจตรวจดูทรัพย์สินของมีค่าภายในตึกแถวทั้งสองคูหาดังกล่าวเป็นการเข้าไปในเคหสถานของผู้อื่นโดยไม่มีเหตุอันสมควร อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364 เท่านั้น จะถือเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นตามมาตรา 362 ยังไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยโดยไม่มีสิทธิกระทำได้และโดยไม่มีเหตุอันสมควรได้เข้าไปในตึกแถวเลขที่ 222/33 อันเป็นเคหสถานที่พักอาศัยของนางบุญรัก พฤกษ์พันธุ์รักษ์ผู้เสียหาย เพื่อสำรวจตรวจดูทรัพย์สินของมีค่าภายในเคหสถานดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการครอบครองเคหสถานของผู้เสียหายโดยปกติสุข ภายหลังจำเลยได้กระทำความผิดดังกล่าวแล้ว จำเลยโดยไม่มีสิทธิกระทำได้และโดยไม่มีเหตุอันสมควรได้ปีนขึ้นไปบนหลังคาตึกแถวเลขที่ 222/55 อันเป็นเคหสถานที่พักอาศัยของบุคคลอื่นเพื่อสำรวจตรวจดูทรัพย์สินของมีค่าภายในเคหสถานดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการครอบครองเคหสถานของบุคคลอื่นโดยปกติสุข ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91, 362, 364

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362,364 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดต่างกรรมกัน ให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน รวม 2 กระทง จำคุก4 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 เดือน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน

จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษจำคุกนั้น เห็นว่า การที่จำเลยบุกรุกเข้าไปในเคหสถานที่พักอาศัยของบุคคลอื่นเพื่อสำรวจตรวจดูทรัพย์สินของมีค่าภายในเคหสถานดังกล่าวถึง 2 แห่ง ในเวลาไล่เลี่ยกัน แม้จะไม่ปรากฏเจตนาที่แท้จริงของจำเลยว่ามีจุดประสงค์ใด แต่ก็เป็นที่เห็นได้ว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจไม่ยำเกรงต่อกฎหมาย ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของสุจริตชนตามพฤติการณ์เป็นเรื่องร้ายแรง จึงไม่สมควรรอการลงโทษจำคุกให้จำเลยแต่อย่างไรก็ตามการกระทำของจำเลยไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายหรือความเสียหายอื่นอีกและไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ศาลฎีกาเห็นสมควรให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นโทษกักขังแทนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23

อนึ่ง การที่จำเลยเข้าไปในตึกแถวเลขที่ 222/33 และปีนขึ้นไปบนหลังคาตึกแถวเลขที่ 222/55 เพื่อสำรวจตรวจดูทรัพย์สินของมีค่าภายในตึกแถวทั้งสองห้องดังกล่าวเป็นการเข้าไปในเคหสถานของผู้อื่นโดยไม่มีเหตุอันสมควรอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364 เท่านั้น จะถือเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นอันเป็นความผิดตามมาตรา 362 ยังไม่ได้ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้เอง แม้ไม่มีคู่ความอุทธรณ์ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225”

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364รวม 2 กระทง ให้เปลี่ยนโทษจำคุก 2 เดือน เป็นโทษกักขังแทนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1

Share