แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเอาของลับใส่เข้าไปในของลับผู้เสียหายอายุ 13 ปี 11 วัน ดันโดยแรง ผู้เสียหายรู้สึกว่าของลับของจำเลยเข้าไปลึกขนาดช่วงนิ้วมือนั้น ดังนี้ ของลับจำเลยได้ล่วงล้ำเข้าไปในของลับผู้เสียหายแล้วจึงเป็นความผิดสำเร็จ หาจำเป็นจะต้องมีรอยฉีกขาดที่ช่องคลอด ปากมดลูก หรือที่เยื่อพรหมจารีด้วยไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกอีก ๑ คน ได้บังอาจร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงไหลหรือสังวาลย์ ทำดี อายุ ๑๓ ปี ๑๑ วัน ซึ่งมิใช่ภรรยาจำเลยอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง โดยจำเลยกับพวกใช้อาวุธปืนขู่เข็ญจ่อที่หน้าอกเด็กหญิงไหลหรือสังวาลย์ ทำดี และจับกดให้นอนลงไม่ให้ขัดขืน จนเด็กนั้นเกิดความกลัวอยู่ในภาวะที่ไม่อาจขัดขืนจำเลยได้แล้วจำเลยกับพวกได้ผลัดเปลี่ยนกันข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงนั้นสำเร็จความใคร่คนละครั้ง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖, ๘๓ ฯลฯ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖, ๘๓ ฯลฯ จำคุก ๑๒ ปี จำเลยรับสารภาพชั้นจับกุมและสอบสวนลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๘ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยต้องระวางโทษสองในสามของความผิดสำเร็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๐ จำคุก ๘ ปี จำเลยรับสารภาพชั้นจับกุมและสอบสวนลดโทษให้หนึ่งในสามตามมาตรา ๗๘ คงจำคุก ๕ ปี ๔ เดือน ฯลฯ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว มีปัญหาที่จะวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดสำเร็จ หรือเพียงชั้นพยายามกระทำความผิด ผู้เสียหายเบิกความว่าจำเลยเอาของลับใส่เข้าไปในของลับผู้เสียหายดันโดยแรง รู้สึกว่าของลับของจำเลยเข้าไปได้ยาวขนาดช่วงนิ้วมือ ผู้เสียหายรู้สึกเจ็บ การที่ผู้เสียหายรู้สึกเจ็บก็เพราะของลับจำเลยเข้าไปในช่องคลอดซึ่งประมาณได้ว่าเข้าไปลึกขนาดช่วงนิ้วมือนั้นย่อมเพียงพอที่จะฟังว่า ของลับจำเลยได้ล่วงล้ำเข้าไปในของลับผู้เสียหายแล้ว เป็นความผิดสำเร็จหาจำเป็นจะต้องมีรอยฉีกขาดที่ช่องคลอดปากมดลูก หรือที่เยื่อพรหมจารีด้วยไม่
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น