แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีผู้ถือหุ้นหรือเป็นหุ้นส่วนอยู่เกินกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดตามประมวลรัษฎากรมาตรา 75 ที่บัญญัติว่าให้เสียภาษีในส่วน 2 ว่าด้วยการเก็บภาษีจากบุคคลธรรมดานั้น หมายความว่าบุคคลธรรมดาผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วนในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น ๆ จะต้องไปเสียภาษีในส่วน 2 หาได้หมายความว่าให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น ๆ ไปเสียภาษีตามส่วน 2 ไม่ จึงไม่มีอะไรที่จะหักค่าใช้จ่ายให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 47 (1) (ก) ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายของบุคคลธรรมดา
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าในการเสียภาษีเงินได้ปี พ.ศ. ๒๔๙๗ ถึง ๒๕๐๐ โจทก์ได้ขอลดหย่อนสำหรับตัวนายมงคลผู้จัดการของโจทก์กับภริยาและบุตรผู้เยาว์ตามประมวลรัษฎากรมาตรา ๔๗ ด้วย เพราะนายมงคลกับภริยาถือหุ้นอยู่เกินกว่าร้อยละ ๕๐ ของทุนทั้งหมด ซึ่งตามมาตรา ๗๕ ให้โจทก์เสียภาษีเงินได้อย่างบุคคลธรรมดา แต่จำเลยที่ ๑ ได้แจ้งการประเมินภาษีถึงนายมงคลผู้จัดการของโจทก์ให้โจทก์เสียภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นอีกทั้ง ๔ ปี โจทก์อุทธรณ์ต่อจำเลยที่ ๒ ๆ สัร่งยกอุทธรณ์ของโจทก์ ๆ เห็นว่าการที่จำเลยไม่ยอมหักค่าใช้จ่ายส่วนตัวนายมงคลกับภริยาและบุตรนั้นไม่ชอบ แม้จะหักไม่ได้ ก็ต้องหักค่าใช้จ่ายให้โจทก์ปีละ ๓,๐๐๐ บาท ตามมาตรา ๔๗ (๑) (ก) จึงฟ้องศาลขอให้บังคับ
จำเลยให้การว่า ตามประมวลรัษฎากรโจทก์จะขอหักดังคำขอไม่ได้ การประเมินภาษีและการยกอุทธรณ์ของโจทก์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว
คู่ความรับกันว่า โจทก์มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ทำการ ค่าโคมไฟ ค่าแรงไฟ ค่าเครื่องเขียนแบบพิมพ์ และค่ารับรองแขกจริง คู่ความขอให้ศาลวินิจฉัยว่าโจทก์มีสิทธิได้รับการหักค่าใช้จ่ายตามประมวลรัษฎากรมาตรา ๔๗ (๑) (ก) หรือไม่เท่านั้น
ศาลชั้นต้นเห็นว่า เมื่อนายมงคลถือหุ้นอยู่ในห้างหุ้นส่วนโจทก์เกินกว่าร้อยละ ๕๐ ตามประมวลรัษฎากรมาตรา ๗๕ โจทก์ไม่ต้องเสียภาษีตามส่วนนี้ แต่ให้เสียภาษีตามส่วนที่ ๒ ว่าด้วยการเก็บภาษีจากบุคคลธรรมดา โจทก์จึงมีสิทธิได้รับการหักค่าใช้จ่ายตามมาตรา ๔๗ (๑) (ก) ปีละ ๓,๐๐๐ บาท จึงพิพากษาให้จำเลยหักค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๗๕ หมายความว่าบุคคลธรรมดาผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วนในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น ๆ ต้องไปเสียภาษีในส่วน ๒ หาได้หมายความว่าให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นไปเสียภาษีตามส่วน ๒ ไม่ จึงไม่มีอะไรที่จำเลยจะต้องหักลดหย่อนค่าใช้จ่ายให้ตามประมวลรัษฎากรมาตรา ๔๗ (๑) (ก) ซึ่งเป็นเรื่องของการเก็บภาษีจากบุคคลธรรมดาให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นนิติบุคคล ทั้งตามแบบเจ้งจำนวนภาษี ๔ ฉบับท้ายฟ้องก็ปรากฎว่าจำเลยแจ้งถึงนายมงคล อันเป็นบุคคลธรรมดาให้นำภาษีเพิ่มไปชำระ จำเลยไม่ได้เรียกภาษีเพิ่มจากโจทก์เลย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง