คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 241/2547

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้โจทก์ได้รับหนังสือแจ้งจากจำเลยที่ 1 ก่อนวันชี้สองสถานว่า ที่ดินของโจทก์มีเนื้อที่ที่ถูกเวนคืนเพิ่มขึ้น แต่โจทก์ยังโต้แย้งคัดค้านการรังวัดที่ดินดังกล่าวของเจ้าพนักงานว่าไม่ถูกต้อง ขอให้จำเลยที่ 1 ตรวจสอบรังวัดกันใหม่ ต่อมาโจทก์และจำเลยที่ 1 ได้ไปรังวัดกันใหม่ในวันที่ 25 ตุลาคม 2543 ภายหลังจากวันชี้สองสถานแล้ว ผลปรากฏว่าที่ดินของโจทก์มีเนื้อที่ที่ถูกเวนคืนเพิ่มขึ้นตามจำนวนเนื้อที่ที่จำเลยที่ 1 เคยแจ้งให้โจทก์ทราบ กรณีเช่นนี้ถือได้ว่าโจทก์เพิ่งทราบและยอมรับว่าที่ดินของโจทก์มีเนื้อที่ที่ถูกเวนคืนเพิ่มขึ้นดังกล่าว เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2543 ภายหลังจากวันชี้สองสถานแล้ว จึงมีเหตุอันสมควรที่โจทก์ไม่อาจยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องเกี่ยวกับเนื้อที่ของที่ดินที่ถูกเวนคืนเพิ่มขึ้นได้ก่อนวันชี้สองสถาน ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 180 ชอบที่ศาลจะอนุญาตให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องเกี่ยวกับเนื้อที่ของที่ดินที่ถูกเวนคืนเพิ่มขึ้นดังกล่าวได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินค่าทดแทนที่ดินพิพาท โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องในส่วนที่เกี่ยวกับจำนวนเนื้อที่ที่ดินทั้งสามแปลงที่ถูกเวนคืนเพิ่มขึ้นและจำนวนเงินค่าทดแทนที่ดินพร้อมดอกเบี้ย ศาลชั้นต้นเห็นว่า เป็นการขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องหลังจากวันชี้สองสถานไปแล้วจึงไม่อนุญาต ให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้รับคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องของโจทก์เฉพาะข้อ ๑๐.๔ และให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาคณะคดีปกครองพิจารณาแล้ว โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าทดแทนที่ดิน ๓ แปลง และต้นไม้ยืนต้นซึ่งอยู่ในบริเวณที่ที่จะเวนคืน และเรียกดอกเบี้ยโดยบรรยายฟ้องและมีคำขอท้ายฟ้องรวมกันมาในฉบับเดียวกัน จำเลยทั้งสามยื่นคำให้การต่อสู้คดีและขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การว่า ที่ดินของโจทก์ที่ถูกเวนคืนมีเนื้อที่เพิ่มขึ้นจากที่ประมาณการไว้เดิม ทั้งโจทก์โต้แย้งการรังวัดที่ดินของเจ้าพนักงานที่ดิน ดังนั้น เนื้อที่ที่ดินของโจทก์ที่ถูกเวนคืนเป็นจำนวนเท่าใด ยังไม่ทราบแน่นอน ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องเกี่ยวกับเนื้อที่ที่ดินที่ถูกเวนคืนเพิ่มขึ้นของที่ดินทั้งสามแปลง จำเลยทั้งสามไม่ค้าน ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องของโจทก์แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นอนุญาตให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องเฉพาะข้อ ๑๐.๔ โจทก์จึงฎีกาขอให้รับคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องทุกข้อ โดยอ้างว่าโจทก์ได้โต้แย้งจำเลยที่ ๑ ว่า ผลการรังวัดนั้นน่าจะไม่ถูกต้อง โจทก์และจำเลยที่ ๑ จึงได้ไปรังวัดกันใหม่ ผลปรากฏว่าที่โฉนดเลขที่ ๘๐ มีเนื้อที่ถูกเวนคืนเพิ่มขึ้น ส่วนที่ดินโฉนดเลขที่ ๘๑ และ ๑๙๓๙๗ เนื้อที่ที่ดินที่ถูกเวนคืนไม่ได้เพิ่มขึ้นจากที่จำเลยที่ ๑ นำชี้ ดังนั้นจึงได้ข้อยุติเกี่ยวกับจำนวนเนื้อที่ที่ดินทั้งสามแปลงของโจทก์ที่ถูกเวนคืนเมื่อวันหลังจากวันชี้สองสถาน โจทก์จึงมีสิทธิที่จะขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องได้ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้โจทก์ได้รับหนังสือแจ้งจากจำเลยที่ ๑ ก่อนวันชี้สองสถานว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ ๘๑ และ ๑๙๓๙๗ รังวัดแล้วมีเนื้อที่ที่ถูกเวนคืนเพิ่มขึ้น แต่โจทก์ยังโต้แย้งคัดค้านการรังวัดที่ดินของเจ้าพนักงานที่ดินว่าไม่ถูกต้อง จึงเป็นการไม่แน่นอนว่าเนื้อที่ที่ดินของโจทก์ทั้งสองแปลงนี้ถูกเวนคืนจำนวนเท่าใด โจทก์และจำเลยยังโต้แย้งจำนวนเนื้อที่กันอยู่ ศาลฎีกาเชื่อว่า โจทก์เพิ่งทราบและยอมรับว่าที่ดินโฉนดเลขที่ ๘๐ และ ๑๙๓๙๗ มีเนื้อที่ที่ถูกเวนคืนภายหลังจากวันชี้สองสถานแล้วตามที่โจทก์ฎีกา กรณีเช่นนี้ถือได้ว่ามีเหตุอันสมควรที่โจทก์ไม่อาจยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องได้ก่อนวันชี้สองสถาน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๘๐ ชอบที่ศาลจะอนุญาตให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องได้ตามคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องทั้งหมดของโจทก์
พิพากษาแก้เป็นว่า อนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องของโจทก์ทุกข้อ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำพิพากษา.

Share