คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 241/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำร้องขอให้ยกเลิกเพิกถอนกระบวนวิธีการบังคับคดีที่ดำเนินการฝ่าฝืนกฎหมายตาม มาตรา 296 วรรคสอง นั้นจะต้องยื่นเสียก่อนการบังคับคดีได้เสร็จสิ้นลงหาใช่ก่อนการบังคับคดีได้เสร็จสิ้นลงตลอดทั้งคดีไม่
เมื่อการดำเนินการบังคับคดีเสร็จไปแล้วตั้งแต่ขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดไว้มิได้ยื่นคำร้องไว้ก่อนแต่จะมาร้องขอให้ยกเลิกเพิกถอนหลังการบังคับคดีหาได้ไม่

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ร้องต่อศาลขอให้ยึดทรัพย์จำเลยขายทอดตลาดเพื่อใช้หนี้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาท้ายยอม ศาลจัดการตามที่โจทก์ร้องจนทรัพย์ถูกขายทอดตลาดไปเสร็จเมื่อ 30 ส.ค. 96 และ 28 พ.ย. 96 รวม 2 คราวแต่ยังไม่คุ้มเงินตามยอม ต่อมา 2 สิงหาคม 97 จำเลยจึงยื่นคำร้องอ้างว่าการบังคับคดีฝ่าฝืน ก.ม. ขอให้ศาลสั่งเพิกถอน

ศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนหลังจากการบังคับคดีได้เสร็จไปแล้ว จึงหมดสิทธิที่จะขอเช่นนั้นตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรค 2 ให้ยกคำร้อง

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาปรึกษาแล้วได้ความว่าคำร้องขอให้เพิกถอน จำเลยยื่นหลังจากการบังคับคดีเสร็จไปแล้วจริงอย่างที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ชี้ไว้ ความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าถ้าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติ เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบุคคลอื่นที่มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีซึ่งต้องเสียหายในการฝ่าฝืนนั้น อาจยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลไม่ว่าเวลาใด ๆ ก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลงความข้อนี้ตอนสุดท้ายที่ว่า ก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลงนั้นจำเลยฎีกาเถียงว่าหมายถึงเสร็จตลอดทั้งคดีไม่ใช่เสร็จสิ้นลงแต่บางส่วนเท่านั้น จำเลยฎีกาดังนี้ไม่ตรงตาม กฎหมายที่แสดงให้เห็นข้างต้น คดีนี้จำเลยไม่ได้ยื่นคำร้องก่อนคำบังคับคดีเสร็จเพราะฉะนั้นฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

Share