แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ไม่ได้อยู่ในกลุ่มคนวิวาทกัน แต่ได้ยืนอยู่ใกล้ที่วิวาทและได้เอาเก้าอี้ทุ่มลงไปในกลุ่มคนที่วิวาทกัน ได้ชื่อว่าเป็นการวิวาทด้วย เมื่อเกิดการทำร้ายกันตายในวงวิวาท ก็ต้องมีความผิดตาม มาตรา 253 ด้วย
ย่อยาว
จำเลยที่ ๓ ตั้งร้านขายกาแฟอยู่ใกล้ ๆ ร้านขายอาหารของจำเลยที่ ๔ ได้มีการทำร้ายกันที่หน้าร้านขายอาหารของจำเลยที่ ๔ มีผู้ร้องเลี๊ยะ ขึ้น ๓-๔ ครั้ง พวกจีนประมาณ ๓๐-๔๐ คนเข้าทำร้ายกัน ผลที่สุด นายตีงู้ได้ถึงแก่ความตายโดยไม่ปรากฏว่าถูกใครทำร้าย จำเลยที่ ๑-๒ มิได้สมัครใจทำร้ายด้วย เป็นแต่ผู้ถูกทำร้ายและผู้ห้าม ส่วนจำเลยที่ ๔ เป็นผู้ชกจำเลยที่ ๑ อันเป็นต้นเหตุแห่งการวิวาทรายนี้ และจำเลยที่ ๓ ได้เอาเก้าอี้ทุ่มลงไปในกลุ่มคนวิวาทกัน โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๑, ๒, ๓, และ ๔ ตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.๒๕๓
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ ๓, ๔ ตามมาตรา ๒๕๓ ยกฟ้องจำเลยที่ ๑, ๒
จำเลยที่ ๓, ๔ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องจำเลยที่ ๓,๔ ด้วย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยที่ ๔ ได้อยู่ในที่วิวาทและชกต่อยจำเลยที่ ๑ ด้วย เมื่อเกิดการทำร้ายกันตายในที่วิวาทนั้น จำเลยที่ ๔ ก็ต้องมีความผิด ส่วนจำเลยที่ ๓ นั้น แม้จะไม่ได้อยู่ในกลุ่มวิวาท แต่ก็ยืนอยู่ใกล้ที่วิวาท และได้เอาเก้าอี้ทุ่มลงไปในกลุ่มคนที่วิวาทกัน ได้ชื่อว่าเป็นคนวิวาทตามบทบัญญัติตามมาตรา ๒๕๓ จึงต้องมีความผิด พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธณ์ ยืนตามศาลชั้นต้น