แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยทราบดีว่านักโทษจะหนีออกจากเรือนจำ จำเลยได้นำรถยนต์ไปคอยรับตรงที่นักโทษจะหนีออกมา เมื่อนักโทษหนีออกมาจากเรือนจำแล้ว จำเลยรับนักโทษเหล่านั้นขับหนีไปดังนี้ นับว่าเป็นการอุปการะให้หนีได้ ต้องมีความผิดตามกฏหมายลักษณะอาญามาตรา 165.
ย่อยาว
ได้ความว่า พวกนักโทษได้หนีจากเรือนจำโดยมีรอยเจาะกำแพง และจำเลยนี้ได้นำรถยนตร์มาจอดคอยอยู่แถวใกล้ ๆ เรือนจำในเวลาเช้าตั้ง ๒ – ๓ วัน พอนักโทษหนีออกจากเรือนจำได้ ก็มาขึ้นรถยนตร์ที่จำเลยนำมาแล้วขับหนีไป
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฏหมายอาญามาตรา ๑๖๕
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ลงโทษตามมาตรา ๑๖๕
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อที่จำเลยฎีกาว่านักโทษได้หนีพ้นเรือนจำแล้ว จะเอาผิดจำเลยตามมาตรา ๑๖๕ ไม่ได้นั้น ความข้อนี้ตามพฤตติการณ์ที่ได้ความฟังได้ว่า จำเลยรู้ดีว่า นักโทษจะหนีออกทางนั้น จำเลยจึงได้นำรถไปคอยรับ นับว่าเป็นการอุปการะให้หนีได้ตามกฏหมายลักษณะอาญามาตรา ๑๖๕ จึงพิพากษายืน