คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 24/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฎีกาข้อหนึ่งมีจำเลยกล่าวว่า “โจทก์ไม่ควรได้รับทรัพย์รายพิพาททั้งหมด ดังข้อต่อสู้ของจำเลย” นั้นเป็นฎีกาที่มิได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิง โดยชัดแจ้ง ศาลจึงไม่รับวินิจฉัยในข้อนี้ให้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยและเครือญาติเป็นผู้ถือศาสนาอิสลาม นางนิ่งเจ้ามรดกถึงแก่กรรม โจทก์เป็นเหลน เป็นผู้สืบสายโลหิตโดยตรงลงมา มีสิทธิได้รับมรดกนางนิ่งทั้งหมด จำเลยไม่มีสิทธิ แต่ได้ครอบครองมรดกไว้ไม่ยอมให้โจทก์ ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ตามกฎหมายอิสลาม โจทก์มีสิทธิได้รับมรดกนางนิ่งผู้เดียว พิพากษาว่าทรัพย์พิพาทตกได้แก่โจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
มีปัญหาข้อกฎหมายมาสู่ศาลฎีกาว่า ฎีกาของจำเลยที่กล่าวว่าโจทก์ไม่ควรได้รับทรัพย์รายพิพาททั้งหมด ดังข้อต่อสู้ของจำเลย ในฎีกาของจำเลยกล่าวไว้เพียงเท่านี้ ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยมิได้กล่าวมาให้ชัดแจ้งว่าโจทก์ไม่ควรได้รับทรัพย์มรดกทั้งหมด เพราะเหตุใดหรือโจทก์ควรได้รับเท่าใด จึงเป็นฎีกาที่มิได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิง โดยชัดแจ้งในฎีกาตาม กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๙ และจะไปอ้างอิง คำให้การเป็นส่วนหนึ่งของฎีกาไม่ได้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาข้อนี้
พิพากาษยืน

Share