คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7008/2544

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ในรายงานกระบวนพิจารณาชั้นจำเลยยื่นคำร้องขอให้งดการบังคับคดี ศาลชั้นต้นได้สอบถามทนายความทั้งสองฝ่ายแล้วได้ความว่า จำเลยถูกโจทก์อีกคดีหนึ่งฟ้องที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนโจทก์ได้รับชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความเพียงเช็ค 1 ฉบับ ศาลชั้นต้นเห็นว่ากรณีดังกล่าวโจทก์ยังไม่ผิดสัญญา จึงให้งดไต่สวนแล้วมีคำสั่งยกคำร้องจำเลย การที่ศาลชั้นต้นสอบถามข้อเท็จจริงจากคู่ความก็เป็นการไต่สวนแล้ว มิใช่ว่าจำต้องสืบพยานบุคคลเท่านั้นจึงจะเป็นการไต่สวน และเมื่อศาลชั้นต้นเห็นว่าข้อเท็จจริงที่ได้จากการสอบถามคู่ความพอวินิจฉัยได้แล้วก็ไม่จำต้องสืบพยานบุคคลอีกศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องจำเลยโดยไม่สืบพยานชอบแล้ว

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์และจำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยชำระเป็นเช็ค หากไม่สามารถเรียกเก็บเงินตามเช็คได้3 งวด ติดต่อกันถือว่าผิดสัญญายอมให้โจทก์บังคับคดีได้ทันที และศาลชั้นต้นได้พิพากษาตามยอม คดีถึงที่สุดแล้ว

ต่อมาจำเลยยื่นคำแถลงว่า โจทก์ไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ข้อ 6 ขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งระงับการจ่ายเงินตามเช็คที่ออกชำระหนี้ให้แก่โจทก์ทั้ง 3 ฉบับ ศาลชั้นต้นสั่งยกคำแถลง

วันที่ 17 กรกฎาคม 2541 โจทก์ยื่นคำขอว่า จำเลยผิดนัดชำระหนี้3 งวด ติดต่อกันตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าว ขอให้บังคับคดี ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี

ต่อมาวันที่ 2 กันยายน 2541 จำเลยยื่นคำร้องคัดค้านการบังคับคดีอ้างว่าโจทก์ผิดสัญญาประนีประนอมยอมความ ข้อ 6 โดยไม่ดำเนินการระงับข้อเรียกร้องของบุคคลภายนอกที่มีต่อจำเลยในมูลหนี้รายเดียวกันกับโจทก์ ขอให้ศาลชั้นต้นนัดพร้อมและเพิกถอนคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี

ศาลชั้นต้นสอบถามคู่ความแล้วมีคำสั่งว่า จะถือว่าโจทก์ผิดสัญญาประนีประนอมยอมความ ข้อ 6 และไม่มีสิทธิขอหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีนั้นต้องเป็นกรณีที่จำเลยถูกโจทก์หรือบุคคลภายนอกเรียกร้องให้ชำระหนี้ในส่วนที่จำเลยได้ชำระไปแล้ว แต่ปัจจุบันมูลหนี้เดียวกันนี้จำเลยเพียงถูกโจทก์อีกคดีหนึ่งฟ้องให้ชำระหนี้ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ยังไม่มีการบังคับคดี จึงถือไม่ได้ว่าโจทก์ผิดสัญญาชอบที่จะขอหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ กรณีไม่จำต้องไต่สวนคำร้องของจำเลยอีกต่อไปให้ยกคำร้อง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยว่าศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องขอให้งดการบังคับคดีโดยไม่สืบพยานชอบหรือไม่ซึ่งจำเลยอ้างว่าควรให้โอกาสจำเลยได้นำพยานเข้าสืบเพื่อแสดงหลักฐานพิสูจน์ถึงที่มาแห่งข้อตกลงก่อนนั้น เห็นว่า ในรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2541 ศาลชั้นต้นได้สอบถามทนายความทั้งสองฝ่ายแล้วได้ความว่า จำเลยถูกโจทก์อีกคดีหนึ่งฟ้องที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนโจทก์ได้รับชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความเพียงเช็ค 1 ฉบับ ศาลชั้นต้นเห็นว่ากรณีดังกล่าวโจทก์ยังไม่ผิดสัญญาจึงให้งดการไต่สวนแล้วมีคำสั่งยกคำร้องจำเลย การที่ศาลชั้นต้นสอบถามข้อเท็จจริงจากคู่ความก็เป็นการไต่สวนแล้วมิใช่ว่าจำต้องสืบพยานบุคคลเท่านั้นจึงจะเป็นการไต่สวน และเมื่อศาลชั้นต้นเห็นว่าข้อเท็จจริงที่ได้จากการสอบถามคู่ความพอวินิจฉัยได้แล้วก็ไม่จำต้องสืบพยานบุคคลอีก ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องจำเลยโดยไม่สืบพยานแล้วฎีกาจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น

ส่วนที่จำเลยฎีกาอีกประการหนึ่งว่า โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่มีสิทธิบังคับคดีจนกว่าโจทก์จะดำเนินการตามสัญญาประนีประนอมยอมความหรือคดีที่จำเลยถูกฟ้องยุติโดยจำเลยไม่ต้องรับผิดนั้น เห็นว่าสัญญาประนีประนอมยอมความ ข้อ 6 มีข้อความว่า เมื่อจำเลยได้ชำระหนี้บางส่วนหรือทั้งหมดตามสัญญานี้แล้ว โจทก์จะไม่ดำเนินการใด ๆ อันเป็นเหตุให้จำเลยต้องชำระหนี้หรือถูกเรียกร้องให้ชำระหนี้ในส่วนที่จำเลยได้ชำระไปแล้วอีก ไม่ว่าการเรียกร้องนั้นจะได้กระทำโดยโจทก์หรือโดยบุคคลอื่นอันเนื่องมาจากการรับช่วงสิทธิจากโจทก์ หรือเนื่องมาจากการเรียกร้องของโจทก์เกี่ยวกับมูลหนี้ตามสัญญานี้ หากมีบุคคลอื่นเรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้อันเป็นมูลหนี้เกี่ยวเนื่องกับสัญญานี้ในส่วนที่จำเลยได้ชำระให้โจทก์ไว้แล้ว โจทก์จะดำเนินการให้การเรียกร้องนั้นระงับไปโดยพลัน จากข้อตกลงดังกล่าวจะเห็นได้ชัดว่าโจทก์จะมีหน้าที่ดำเนินการให้การเรียกร้องนี้ระงับไปก็ต่อเมื่อบุคคลภายนอกได้รับช่วงสิทธิจากโจทก์หรือเนื่องมาจากการเรียกร้องของโจทก์เท่านั้น ถ้าบุคคลภายนอกฟ้องจำเลยโดยอาศัยสิทธิของเขาเองโจทก์ก็ไม่มีหน้าที่ต้องดำเนินการให้การเรียกร้องนั้นระงับไปแม้ในคำร้องคัดค้านการบังคับคดีของจำเลยฉบับลงวันที่ 2 กันยายน 2541 จะระบุว่าบุคคลภายนอกเรียกร้องในมูลหนี้อันเกิดจากสินค้ารายเดียวกันก็ตาม แต่ในสินค้ารายเดียวกันอาจจะมีหนี้อื่น เช่น หนี้ค่าขนส่ง ค่าภาษี เป็นต้น เมื่อไม่ปรากฏว่าบุคคลภายนอกที่เรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้ได้รับช่วงสิทธิจากโจทก์หรือเนื่องมาจากการเรียกร้องของโจทก์ โจทก์จึงไม่มีหน้าที่ต้องดำเนินการระงับข้อเรียกร้องของบุคคลภายนอกตามสัญญาประนีประนอมยอมความฎีกาจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน ที่ศาลล่างทั้งสองยกคำร้องจำเลยนั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล”

พิพากษายืน

Share