แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่หญิงมีสามีฟ้องคดีนั้นหาจำต้องได้รับอนุญาตจากสามีเสียก่อนทุกกรณีไม่คู่สมรสฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดฟ้องคดีต้องได้รับอนุญาตจากอีกฝ่ายหนึ่งก็เฉพาะการฟ้องคดีเกี่ยวกับสินสมรสซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ทั้งสองฝ่ายต้องจัดการร่วมกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1476 เท่านั้น เมื่อจำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ว่า โจทก์ฟ้องคดีเป็นการฟ้องเกี่ยวกับสินสมรสที่โจทก์กับสามีต้องจัดการร่วมกันจึงไม่มีประเด็นข้อโต้เถียงว่าทรัพย์สินที่โจทก์ฟ้องเป็นสินสมรสหรือไม่ โจทก์ย่อมฟ้องได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากสามีก่อน.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้นางมะลิวัลย์ต่อมานางมะลิวัลย์ ได้สลักหลังโดยแลกเงินสดไปจากโจทก์ เมื่อตั๋วสัญญาใช้เงินถึงกำหนดแล้ว โจทก์ได้นำไปแสดงต่อจำเลยเพื่อให้ใช้เงิน แต่จำเลยไม่ใช้ให้ ขอให้พิพากษาให้จำเลยชำระเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยตามฟ้องให้แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยได้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้นางมะลิวัลย์จริง ต่อมานางมะลิวัลย์ เป็นลูกหนี้จำเลยจำนวนหนึ่ง เมื่อครบกำหนดเวลาใช้เงิน นางมะลิวัลย์ ก็มิได้ติดต่อกับจำเลย ลายมือชื่อสลักหลังตั๋วสัญญาใช้เงินเป็นลายมือชื่อปลอม หากฟังว่าเป็นการโอนตั๋วสัญญาใช้เงินกันจริงก็เป็นการโอนโดยคบคิดกันฉ้อฉลระหว่างโจทก์กับนางมะลิวัลย์ นอกจากนั้นโจทก์เป็นหญิงมีสามีแต่ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับความยินยอมจากสามีให้ฟ้องคดีนี้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยใช้เงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยตามฟ้องให้แก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหามาสู่ศาลฎีกาแต่เพียงว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยหรือไม่ เห็นว่ากฎหมายมิได้บัญญัติว่าถ้าหญิงมีสามีฟ้องคดี จะต้องได้รับอนุญาตจากสามีเสียก่อนทุกกรณี คู่สมรสฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดฟ้องคดีต้องได้รับอนุญาตจากอีกฝ่ายหนึ่งก็เฉพาะการฟ้องคดีเกี่ยวกับสินสมรส ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ทั้งสองฝ่ายต้องจัดการร่วมกันตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1476 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่ พ.ศ. 2519 สำหรับคดีนี้จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ว่า โจทก์ฟ้องคดีนี้เป็นการฟ้องกับสินสมรสที่โจทก์กับสามีต้องจัดการร่วมกันตามที่บัญญัติไว้ในมาตราดังกล่าว จึงไม่มีประเด็นข้อโต้เถียงว่าทรัพย์สินที่โจทก์ฟ้องเป็นสินสมรสหรือไม่ โจทก์ย่อมฟ้องคดีนี้ได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากสามีเสียก่อน
พิพากษายืน.