คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2393/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 40,200 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะรื้อถอนอาคารส่วนที่รุกล้ำตอนหนึ่งกับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายวันละ 1,340 บาท จนกว่าจะ รื้อถอนอาคารส่วนที่รุกล้ำเสร็จอีกตอนหนึ่งข้อความสองตอนดังกล่าวมีคำว่า ‘กับ'(และ) เชื่อมประโยคอยู่เมื่อฟังรวมกันแล้วย่อมได้ความว่าโจทก์ขอให้จำเลยใช้ ค่าเสียหายอีกวันละ 1,340 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะ รื้อถอนอาคารส่วนที่รุกล้ำเสร็จ

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องว่าจำเลยปลูกสร้างอาคารรุกล้ำเข้ามาในที่ดินโจทก์ซึ่งอยู่ติดกัน ขอให้จำเลยรื้อถอนอาคารส่วนที่รุกล้ำออกไป ถ้าจำเลยขัดขืนก็ให้โจทก์รื้อถอนโดยจำเลยเสียค่าใช้จ่าย ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 40,200 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะรื้อถอนอาคารเสร็จกับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายวันละ 1,340 บาท จนกว่าจะรื้อถอนอาคารส่วนที่รุกล้ำเสร็จ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนอาคารส่วนที่รุกล้ำออกไป ถ้าจำเลยขัดขืนให้โจทก์เป็นผู้รื้อถอนโดยจำเลยเป็นผู้เสียค่าใช้จ่าย ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 40,200 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะรื้อถอนอาคารส่วนที่รุกล้ำเสร็จกับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์วันละ1,340 บาท จนกว่าจำเลยจะรื้อถอนอาคารที่รุกล้ำ จำเลยอุทธรณ์และฎีกาต่อมาศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาพิพากษายืน
ในชั้นบังคับคดี เจ้าพนักงานบังคับคดีหารือวิธีคิดค่าเสียหายต่อศาลชั้นต้นศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คดีนี้ศาลพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนอาคารส่วนที่รุกล้ำ กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายในอัตราวันละ 1,340 บาท จนกว่าจำเลยจะรื้อถอนอาคารส่วนที่รุกล้ำซึ่งตามคำขอของโจทก์ไม่ระบุวันเริ่มต้นไว้ จึงต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่จำเลยจะต้องรื้อถอนอาคารที่พิพาทตามคำพิพากษาวันที่ 10 สิงหาคม 2519 เมื่อจำเลยยังไม่รื้อถอนอาคารจำเลยจะต้องใช้ค่าเสียหายวันละ 1,340 บาท ตั้งแต่วันที่11 สิงหาคม 2519 เป็นต้นไป
จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า ค่าเสียหายที่จำเลยจะต้องใช้แก่โจทก์จะเริ่มนับแต่วันครบกำหนดในคำบังคับ หรืออย่างเร็วนับตั้งแต่วันที่อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาหรือไม่เท่านั้น พิเคราะห์คำฟ้องและคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ซึ่งกล่าวว่า ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน40,200 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะรื้อถอนอาคารส่วนที่รุกล้ำ ตอนหนึ่งกับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายวันละ 1,340 บาทจนกว่าจะรื้อถอนอาคารส่วนที่รุกล้ำเสร็จอีกตอนหนึ่ง ข้อความสองตอนดังกล่าวมีคำว่า “กับ” (และ) เชื่อมประโยคอยู่ เมื่อฟังรวมกันแล้วก็ได้ความว่าโจทก์ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายอีกวันละ 1,340 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะรื้อถอนอาคารส่วนที่รุกล้ำเสร็จ จะเริ่มนับตั้งแต่วันครบกำหนดคำบังคับ หรืออย่างเร็วตั้งแต่วันอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาจึงไม่ถูกต้อง ที่ศาลชั้นต้นให้เจ้าพนักงานบังคับคดีคิดค่าเสียหายดังกล่าวนับถัดจากวันที่ศาลชั้นต้นพิพากษาโดยโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์คัดค้านนับว่าเป็นคุณแก่จำเลยมากอยู่แล้ว
พิพากษายืน

Share