แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญาซื้อขายข้อ 7 กำหนดเบี้ยปรับในกรณีที่ผู้ขายผิดสัญญาโดยไม่ส่งมอบสิ่งของที่ตกลงขายให้แก่ผู้ซื้อ หรือส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้อง หรือส่งมอบไม่ครบจำนวนและผู้ซื้อได้บอกเลิกสัญญาแก่ผู้ขาย ส่วนข้อ 8 กำหนดเบี้ยปรับในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาแก่ผู้ขาย ยังคงยอมให้ผู้ขายนำสิ่งของที่ซื้อขายส่งให้แก่ผู้ซื้อต่อไป ผู้ซื้อจึงจะมีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับจากผู้ขายเป็นรายวันได้ เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาเนื่องจากจำเลยส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ ถูกต้อง โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับตามสัญญาข้อ 7 เท่านั้น ไม่มีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับเป็นรายวันตามสัญญาข้อ 8
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาขายกระโจมผ้าใบพร้อมอุปกรณ์จำนวน ๑๑,๐๐๐ บาท รวมเป็นเงิน ๒,๖๒๙,๐๐๐ บาท ให้แก่โจทก์ เมื่อจำเลยส่งมอบสิ่งของให้แก่โจทก์ คณะกรรมการตรวจรับของมีความเห็นว่าไม่สมควรรับของไว้เพราะจำเลยส่งมอบไม่ตรงตามสัญญา โจทก์ได้แจ้งให้จำเลยแก้ไข จำเลยได้แก้ไขแล้ว แต่ก็ยังไม่ถูกต้องตามสัญญา โจทก์เห็นว่าจำเลยไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้ จึงบอกเลิกสัญญาซื้อขายและริบเงินประกันตามสัญญา นอกจากนี้โจทก์ยังมีสิทธิเรียกค่าปรับจากจำเลยในอัตราร้อยละ ๐.๒ ต่อวันจากต้นเงิน ๒,๖๒๙,๐๐๐ บาทรวมเป็นเงิน ๙๙๙,๐๒๐ บาท จึงขอให้บังคับจำเลยร่วมกันใช้เงินจำนวนดังกล่าวพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยส่งมอบสิ่งของตามสัญญาให้แก่โจทก์ภายในกำหนดแล้ว โจทก์ละเลยไม่ตรวจรับมอบ ทำให้การตรวจรับล่าช้าหลังจากส่งมอบถึง ๖ เดือนเศษ โจทก์บอกเลิกสัญญาและริบเงินประกันเป็นการไม่ถูกต้อง ส่วนค่าปรับที่โจทก์เรียกร้องตามฟ้องนั้น เมื่อโจทก์ใช้สิทธิเลิกสัญญาตามข้อ ๗ แล้วโจทก์จะเรียกเบี้ยปรับตามสัญญาข้อ ๘ อีกไม่ได้ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเบี้ยปรับแก่โจทก์เป็นเงิน ๓๐๔,๙๖๔ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย
โจทก์และจำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเบี้ยปรับแก่โจทก์เป็นเงิน ๑๒๒,๖๖๓.๘๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย
โจทก์และจำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ปัญหาวินิจฉัยต่อไปมีว่าโจทก์มีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับจากจำเลยเป็นรายวันตามที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ ข้อสัญญาที่เกี่ยวกับการเรียกร้องเบี้ยปรับมีดังนี้
ข้อ ๗. เมื่อครบกำหนดส่งมอบสิ่งของตามสัญญานี้แล้วถ้าผู้ขายไม่ส่งมอบสิ่งของที่ตกลงขายให้แก่ผู้ซื้อ หรือส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้อง หรือส่งมอบสิ่งของไม่ครบจำนวน ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้
ในกรณีที่ผู้ซื้อใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อริบหลักประกัน หรือเรียกร้องจากธนาคารผู้ออกหนังสือรับรองตามข้อ ๖เป็นจำนวนเงินทั้งหมด หรือแต่บางส่วนก็ได้ แล้วแต่ผู้ซื้อจะเห็นสมควรและถ้าผู้ซื้อจัดซื้อสิ่งของจากบุคคลอื่นเต็มจำนวนหรือเฉพาะจำนวนที่ขาดส่งแล้วแต่กรณี ภายในกำหนด ๖ เดือน นับแต่วันที่บอกเลิกสัญญาผู้ขายต้องยอมรับผิดชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นจากราคาที่กำหนดไว้ในสัญญานี้ด้วย
ข้อ ๘. ในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาตามข้อ ๗ ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นรายวันในอัตราร้อยละศูนย์จุดสอง (๐.๒) ของราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบ นับแต่วันครบกำหนดตามสัญญาจนถึงวันที่ผู้ขายได้นำสิ่งของมาส่งให้แก่ผู้ซื้อจนถูกฟ้องครบถ้วน ฯลฯ
ศาลฎีกาเห็นว่า สัญญาข้อ ๗ กำหนดเบี้ยปรับในกรณีที่ผู้ขายผิดสัญญาโดยไม่ส่งมอบสิ่งของที่ตกลงขายให้แก่ผู้ซื้อ หรือส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้อง หรือส่งมอบสิ่งของไม่ครบจำนวน และผู้ซื้อได้บอกเลิกสัญญาต่อผู้ขายส่วนข้อ ๘ กำหนดเบี้ยปรับในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาต่อผู้ขาย ยังคงยอมให้ผู้ขายนำสิ่งของที่ซื้อขายตามสัญญาส่งให้แก่ผู้ซื้อต่อไป ผู้ซื้อจึงจะมีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับจากผู้ขายเป็นรายวันได้นับแต่วันครบกำหนดตามสัญญาจนกว่าผู้ขายได้นำสิ่งขอมาส่งให้แก่ผู้ซื้อจนถูกต้องครบถ้วน กรณีนี้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาเนื่องจากจำเลยส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้องโจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับตามสัญญาข้อ ๗ เท่านั้น ไม่มีสิทธิเรียกร้องเอาเบี้ยปรับเป็นรายวันตามสัญญาข้อ ๘
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์