คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2385/2545

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์คำพิพากษาของจำเลยเนื่องจากจำเลยไม่วางเงินตาม ป.วิ.พ. มาตรา 229 ภายในกำหนด จำเลยต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นไปยังศาลอุทธรณ์และนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาล และนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมี คำสั่งตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.พ. มาตรา 234 เมื่อจำเลยไม่ดำเนินการดังกล่าวจนพ้นกำหนดระยะเวลา คดีย่อมถึงที่สุด จำเลยจึงไม่อาจยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาในการวางเงินค่าธรรมเนียมตามมาตรา 229 ได้อีก

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระหนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 5,513,476.85 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 19 ต่อปี นับแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2535 กับชำระเงิน 61,014,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 19 ต่อปีของต้นเงิน 60,000,000 บาท นับแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2534 ไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากไม่ชำระหรือชำระไม่ครบให้บังคับจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างขายทอดตลาดชำระหนี้ จนครบ และให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ 70,000 บาท จำเลยทั้งสอง ยื่นอุทธรณ์พร้อมกับยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว เห็นว่า จำเลยทั้งสองมิได้ยากจนจริงยังมีเงินพอเสียค่าธรรมเนียมศาล จึงให้ยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ และ ให้จำเลยทั้งสองนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระภายใน 15 วัน จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยทั้งสองหากจำเลยทั้งสองยังติดใจอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นต่อไป ให้จำเลยทั้งสองนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายใน 15 วัน นับแต่วันฟังคำสั่ง ศาลชั้นต้นได้อ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ให้จำเลยทั้งสองทราบโดยชอบแล้ว แต่จำเลยทั้งสองไม่ได้นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระต่อศาลชั้นต้น ภายในกำหนด จนกระทั่งพ้นกำหนดระยะเวลาตามที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่ง จำเลยทั้งสองกลับยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาการวางเงินออกไปอีกโดยอ้างเหตุผลว่าไม่ทราบคำสั่งศาลอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของจำเลยทั้งสอง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยแล้ว ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นรับฟังเป็นยุติว่าศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้แก่โจทก์เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2539 จำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์และยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาใน ชั้นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสอง ให้จำเลยทั้งสองนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระภายใน 15 วัน จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสอง หากจำเลยทั้งสองยังติดใจอุทธรณ์ คำพิพากษาของศาลชั้นต้นให้นำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันฟังคำสั่งซึ่งศาลชั้นต้นได้อ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2541 ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองไม่นำเงินค่าธรรมเนียมมาวางภายในระยะเวลาที่ศาลอุทธรณ์กำหนด ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2541 จำเลยทั้งสองไม่ได้ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสอง แต่จำเลยทั้งสองได้ยื่น คำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ใหม่ไว้ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2541 เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาใหม่ดังกล่าวในวันเดียวกับที่มีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองแล้ว จำเลยทั้งสองได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาในการวางเงินค่าธรรมเนียมอีก ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องเพราะศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองไปแล้ว จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยทั้งสองจึงฎีกาเป็นคดีนี้ เห็นว่า เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์คำพิพากษาของจำเลยทั้งสองไปแล้ว ทางแก้ของจำเลยทั้งสองคือ จำเลยทั้งสองต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นไปยังศาลอุทธรณ์และนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาล และนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตามที่บทบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 เมื่อจำเลยทั้งสองไม่ดำเนินการดังกล่าวจนพ้นกำหนด ระยะเวลา คดีย่อมถึงที่สุด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 147 วรรคสอง จำเลยทั้งสองจึงไม่อาจยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาในการวางเงินค่าธรรมเนียมตามมาตรา 229 ได้อีก ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์และ รับฎีกาของจำเลยทั้งสองมา และศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยเรื่องการขอขยายระยะเวลาให้จึงเป็นการไม่ชอบ
พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสอง ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และยกฎีกาของจำเลยทั้งสอง ให้คืน ค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาแก่จำเลยทั้งสอง ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกา นอกจากที่สั่งคืนให้เป็นพับ.

Share