คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2384/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาเช่าซื้ออันเป็นมูลหนี้ตามเช็คพิพาทมิได้ปลอดอากรแสตมป์ จึงต้องห้ามมิให้รับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่ง ตาม ประมวลรัษฎากร มาตรา 118 และรับฟังไม่ได้ว่ามีการทำ สัญญาเช่าซื้อกันเป็นหนังสือตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 572 หนี้ตามสัญญาเช่าซื้อ ย่อมไม่อาจบังคับได้ตามกฎหมาย แม้โจทก์จะสามารถ นำสัญญาเช่าซื้อดังกล่าวไปปิดอากรแสตมป์ให้ถูกต้องใน ภายหลังและใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งได้ก็ตาม แต่ก็เห็นการทำให้หนี้นั้นมีหลักฐานและสามารถบังคับได้ ในภายหลัง วันที่เช็คพิพาทถึงกำหนดใช้เงิน อันเป็นวันที่ จำเลยออกเช็ค ดังนี้ หนี้ตามสัญญาเช่าซื้อที่จำเลยออก เช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้รายนี้จึงยังบังคับตามกฎหมายไม่ได้การออกเช็คของจำเลยจึงมิใช่เป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ ที่บังคับได้ตามกฎหมาย และการกระทำของจำเลยย่อมขาด องค์ประกอบความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิด จากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 คดีโจทก์จึงไม่มีมูล

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีไม่มีมูลพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงตามทางไต่สวนมูลฟ้องได้ความว่าเมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2540 จำเลยที่ 2ได้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คตามฟ้องทั้งสี่ฉบับโดยประทับตราสำคัญของห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 1 ซึ่งจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการมอบให้โจทก์เป็นการชำระหนี้ค่าเช่าซื้อเครื่องพิมพ์และเครื่องตัดกระดาษที่จำเลยทั้งสองเช่าซื้อไปจากโจทก์เมื่อเช็คทั้งสี่ฉบับถึงกำหนดใช้เงิน โจทก์นำเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินแล้ว แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินทั้งสี่ฉบับด้วยเหตุผลอย่างเดียวกันว่า “บัญชีปิดแล้ว” ซึ่งบัญชีของจำเลยปิดไปตั้งแต่ก่อนที่เช็คทั้งสี่ฉบับจะถึงกำหนดใช้เงิน สำหรับสัญญาเช่าซื้อระหว่างโจทก์กับจำเลยทั้งสองตามเอกสารหมายจ.3 นั้น ปรากฏว่ายังมิได้ปิดอากรแสตมป์
คดีคงมีปัญหาตามฎีกาของโจทก์ว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองมีมูลเป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ เห็นว่า เมื่อสัญญาเช่าซื้ออันเป็นมูลหนี้ตามเช็คพิพาททั้งสี่ฉบับมิได้ปิดอากรแสตมป์ จึงต้องห้ามมิให้รับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งตามประมวลรัษฎากรมาตรา 118 และรับฟังไม่ได้ว่ามีการทำสัญญาเช่าซื้อกันเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 572 หนี้ตามสัญญาเช่าซื้อย่อมไม่อาจบังคับได้ตามกฎหมาย แม้โจทก์จะสามารถนำสัญญาเช่าซื้อดังกล่าวไปปิดอากรแสตมป์ให้ถูกต้องในภายหลังและใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งได้ดังที่โจทก์อ้างในฎีกาก็ตามแต่ก็เป็นการทำให้หนี้นั้นมีหลักฐานและสามารถบังคับได้ในภายหลังเมื่อวันที่เช็คพิพาททั้งสี่ฉบับถึงกำหนดใช้เงินอันถือว่าเป็นวันที่จำเลยทั้งสองออกเช็คหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อรายนี้ยังบังคับตามกฎหมายไม่ได้เช่นนี้ การออกเช็คของจำเลยทั้งสองจึงมิใช่เป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่บังคับได้ตามกฎหมายและการกระทำของจำเลยทั้งสองย่อมขาดองค์ประกอบความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 คดีโจทก์จึงไม่มีมูล
พิพากษายืน

Share