คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2377/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จแล้วได้สั่งนัดพร้อมเพื่อสอบถาม ให้โจทก์เสนอพยานหลักฐานต่อศาลว่านายหุยซิว แซ่คู จำเลยเป็นชายหรือหญิง มีตัวตนอยู่ ณ ภูมิลำเนาตามฟ้องหรือไม่ภายในกำหนด ดังนี้ยังไม่ล่วงพ้นขั้นตอนของการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาล เพราะก่อนมีคำพิพากษา ศาลชั้นต้นชอบที่จะสั่งคู่ความหรือบุคคลใดให้ส่งพยานหลักฐานใดต่อศาลเพื่อประกอบการวินิจฉัยคดีได้เสมอ คำสั่งดังกล่าวเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างหนึ่งของศาล เมื่อโจทก์ทราบคำสั่งแล้วเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามภายในกำหนดจึงเป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา174 (2)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระหนี้ค่าซื้อวัสดุก่อสร้าง นางวรรณี หรือหุยซิว พงคธนาไกลหรือแซ่คู เข้ามาในคดีในฐานะจำเลยให้การต่อสู้คดีหลายประการหลังจากสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จและคดีอยู่ระหว่างนัดฟังคำพิพากษา ศาลชั้นต้นสั่งในหมายนัดพร้อมเพื่อสอบถาม ให้โจทก์เสนอพยานหลักฐานต่อศาลว่านายหุยซิว แซ่คู จำเลยเป็นชายหรือหญิง มีตัวตนอยู่ ณ ภูมิลำเนาที่โจทก์ฟ้องหรือไม่อย่างไรภายใน ๕ วันมิฉะนั้นถือว่าทิ้งฟ้อง โจทก์ขอขยายเวลาศาลชั้นต้นอนุญาต พ้นกำหนดแล้วโจทก์ไม่ดำเนินการตามคำสั่ง ศาลชั้นต้นจึงถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องและสั่งจำหน่ายคดี
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการที่ศาลชั้นต้นให้โจทก์เสนอพยานหลักฐานต่อศาลว่านายหุยซิว แซ่คู จำเลยเป็นชายหรือหญิง มีตัวตนอยู่ณ ภูมิลำเนาที่โจทก์ฟ้องหรือไม่อย่างไร ภายในกำหนดนั้นศาลชั้นต้นมีอำนาจที่จะสั่งเช่นนั้นได้ ยังไม่ล่วงพ้นขั้นตอนของการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาล ดังโจทก์ฎีกาแต่อย่างใด เพราะก่อนมีคำพิพากษาศาลชั้นต้นชอบที่จะสั่งคู่ความหรือบุคคลใดให้ส่งพยานหลักฐานใดต่อศาลเพื่อประกอบการวินิจฉัยคดีได้เสมอ และการสั่งเช่นว่านี้เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างหนึ่งของศาลเมื่อโจทก์ทราบคำสั่งนี้แล้วเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามภายในกำหนดจึงเป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา๑๗๔ (๒)
พิพากษายืนค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share