แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 มาตรา 107 (4) ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคเดียว นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วัน ผู้ร้องสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2547 และพ้นจากสมาชิกภาพเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2547 ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ผู้ร้องยังได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคความหวังใหม่เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2547 ก่อนวันที่ผู้ร้องจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติไทย สมาชิกภาพของผู้ร้องจึงหาได้สิ้นสุดลงตามข้อบังคับของพรรคชาติไทย ข้อ 14 (5) ที่กำหนดว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสิ้นสุดลง เมื่อสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่น ดังที่ผู้ร้องอ้างแต่อย่างใดไม่ ดังนั้น ในวันที่ผู้ร้องพ้นจากสมาชิกภาพของพรรคชาติไทย เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2547 ถึงวันที่ผู้ร้องสมัครรับเลือกตั้งในวันที่ 11 มกราคม 2548 ผู้ร้องจึงมิได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคเดียว นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วัน ผู้ร้องเป็นผู้ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 มาตรา 107 (4) ที่ผู้คัดค้านไม่รับสมัครและไม่ประกาศชื่อผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งชอบแล้ว
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งว่าผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตเลือกตั้งที่ 7 จังหวัดเชียงใหม่
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้เป็นยุติในเบื้องต้นว่า เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2548 ผู้ร้องได้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตเลือกตั้งที่ 7 จังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาวันที่ 20 มกราคม 2548 ผู้คัดค้านมีหนังสือแจ้งให้ผู้ร้องทราบว่า ผู้ร้องขาดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2541 ผู้ร้องมิได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองพรรคใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคเดียวนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วัน มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ผู้ร้องขาดคุณสมบัติมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ เห็นว่า ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยซึ่งใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันนี้ มาตรา 107 (4) ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคเดียว นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วัน จึงต้องวินิจฉัยต่อไปว่า ผู้ร้องเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยหรือไม่ ในปัญหานี้ผู้ร้องแถลงรับว่า ผู้ร้องได้ยื่นหลักฐานการสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยไว้ ส่วนการที่พรรคชาติไทยจะรับสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยเมื่อใดนั้นผู้ร้องไม่ทราบ และวัน เดือน ปี ที่เข้าเป็นสมาชิกและลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยนั้นก็คลาดเคลื่อน ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองเป็นข้อมูลที่หัวหน้าพรรคชาติไทยแจ้งให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบตามหน้าที่ ข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองดังกล่าวเป็นเอกสารมหาชนซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งผู้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำขึ้นหรือรับรอง หรือสำเนาอันรับรองถูกต้องแห่งเอกสารนั้น ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้อง เป็นหน้าที่ของคู่ความฝ่ายที่ถูกอ้างเอกสารนั้นมายัน ต้องนำสืบความไม่บริสุทธิ์หรือความไม่ถูกต้องแห่งเอกสาร ตามประมวลกฎหมายวิธิพิจารณาความแพ่ง มาตรา 127 เมื่อผู้ร้องโต้แย้งแต่เพียงลอยๆ ว่า วัน เดือน ปี ที่เข้าเป็นสมาชิกและลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยที่ปรากฎในข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองนั้นคลาดเคลื่อน จึงไม่สามารถหักล้างข้อสันนิษฐานตามบทกฎหมายดังกล่าวได้ ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ตามข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองว่า ผู้ร้องสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2547 และพ้นจากสมาชิกภาพเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2547 ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ผู้ร้องยังได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคความหวังใหม่เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2547 ก่อนวันที่ผู้ร้องจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติไทย สมาชิกภาพของผู้ร้องจึงหาได้สิ้นสุดลงตามข้อบังคับของพรรคชาติไทย ข้อ 14 (5) ดังที่ผู้ร้องอ้างแต่อย่างใดไม่ ดังนั้น ในวันที่ผู้ร้องพ้นจากสมาชิกภาพของพรรคชาติไทย เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2547 ถึงวันที่ผู้ร้องสมัครรับเลือกตั้งในวันที่ 11 มกราคม 2548 ผู้ร้องจึงมิได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคเดียว นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วัน ผู้ร้องเป็นผู้ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจัการไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 107 (4) ที่ผู้คัดค้านไม่รับสมัครและไม่ประกาศชื่อผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งชอบแล้ว
จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง.