แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์เป็นผู้ถือสิทธิการเช่าอาคารพาณิชย์ของการเคหะแห่งชาติ และตกลงให้จำเลยจัดหาคนมารับโอนสิทธิการเช่าในราคา 150,000 บาท ถ้าจำเลยจัดหาคนรับโอนสิทธิการเช่าได้ราคาเกินกว่านั้น เงินส่วนที่เกินเป็นของจำเลย เมื่อจำเลยจัดหาผู้รับโอนสิทธิการเช่าได้ในราคา 195,000 บาท แต่จำเลยส่งมอบเงินให้โจทก์เพียง 80,000 บาท ส่วนที่เหลือ 70,000 บาท จำเลยเอาไว้เป็นของตนเสีย การที่จำเลยโอนสิทธิการเช่าและรับเงินจากผู้รับโอนสิทธิการเช่าไว้ จึงเป็นการรับเงินจากบุคคลที่สาม ซึ่งจำเลยมีความผูกพันตามสัญญาที่จะต้องชดใช้เงินแก่โจทก์ 150,000 บาทเท่านั้น มิใช่จำเลยได้รับมอบหมายหรือครอบครองเงินดังกล่าวไว้แทนโจทก์ การกระทำของจำเลยเป็นการผิดสัญญาทางแพ่งเท่านั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้มีสิทธิการเช่าในอาคารพาณิชย์ของการเคหะแห่งชาติจำเลยได้ตกลงรับจัดหาคนมารับโอนโดยมีข้อตกลงว่า ถ้าจำเลยเรียกร้องค่าโอนได้มากกว่า ๑๕๐,๐๐๐ บาท เงินส่วนที่เกินเป็นของจำเลย ต่อมาจำเลยตกลงทำสัญญาโอนสิทธิการเช่าอาคารดังกล่าวให้ผู้มีชื่อในราคา ๑๙๕,๐๐๐ บาท จำเลยรับเงินมาแล้วนำมาให้โจทก์เพียง ๘๐,๐๐๐ บาท ที่เหลือจำเลยมีเจตนาเบียดบังเอาไว้เสียเอง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๒
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องและประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เห็นว่าโจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่า โจทก์เป็นผู้ถือสิทธิการเช่าอาคารพาณิชย์ของการเคหะแห่งชาติ และตกลงให้จำเลยจัดหาคนมารับโอนสิทธิการเช่าในราคา ๑๕๐,๐๐๐ บาท แต่ถ้าจำเลยจัดหาคนรับโอนสิทธิการเช่าได้ราคาเกินกว่า ๑๕๐,๐๐๐ บาท เงินส่วนที่เกินเป็นของจำเลย เมื่อจำเลยจัดหาผู้รับโอนสิทธิการเช่าได้ในราคา ๑๙๕,๐๐๐ บาท แต่จำเลยส่งมอบเงินให้โจทก์เพียง ๘๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือ ๗๐,๐๐๐ บาท จำเลยได้ยักยอกเอาไว้เป็นของตนเสียนั้น การที่จำเลยโอนสิทธิการเช่าและรับเงินจากผู้รับโอนสิทธิการเช่าไว้ จึงเป็นการรับเงินจากบุคคลที่สามซึ่งจำเลยมีความผูกพันตามสัญญาที่จะต้องชดใช้เงินให้แก่โจทก์ ๑๔๐,๐๐๐ บาท เท่านั้น มิใช่จำเลยได้รับมอบหมาย หรือครอบครองเงินดังกล่าวไว้แทนผู้เสียหาย ทั้งปรากฏจากสัญญาโอนสิทธิการเช่านั้น ตามเอกสารหมาย จ.๑ ว่าจำเลยเป็นผู้ทำสัญญาโอนสิทธิการเช่าบ้านเลขที่ ๖๒/๖ ถนนประชาสงเคราะห์ พญาไท ในนามของจำเลย หาได้ทำสัญญาโอนสิทธิการเช่าในฐานะเป็นตัวแทนของโจทก์ไม่ เมื่อจำเลยรับเงินค่าโอนสิทธิการเช่าจากผู้รับโอนตามสัญญาโอนสิทธิการเช่าตามเอกสารหมาย จ.๑ จึงมิใช่เป็นการรับเงินแทนโจทก์แต่อย่างใด การกระทำของจำเลยเป็นการผิดสัญญาทางแพ่งเท่านั้น ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์จึงต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา
พิพากษายืน