แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งสองฎีกา หากโจทก์ดำเนินการบังคับคดีจะทำให้จำเลยทั้งสองได้รับความเสียหาย โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 59)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 1,021,609.40 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องว่าจำเลยทั้งสองไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา ขอให้ศาลออกหมายบังคับคดี ศาลชั้นต้นจึงออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี
จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องว่า จำเลยทั้งสองได้ชำระเงินให้โจทก์ไปแล้ว 150,000 บาท แต่โจทก์กับทนายโจทก์ยื่นคำร้องเป็นเท็จว่าจำเลยทั้งสองยังไม่ได้ชำระหนี้ ศาลจึงได้ออกหมายบังคับคดีให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้ทั้งหมดตามคำพิพากษาขอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกหมายบังคับคดีและงดการบังคับคดีไว้ก่อนศาลชั้นต้นสั่งว่า ศาลออกหมายบังคับคดีไปตามที่โจทก์ขอตามคำพิพากษา จึงไม่มีเหตุที่จะยกเลิกหมายบังคับคดีส่วนที่จำเลยทั้งสองอ้างว่าได้ชำระเงินให้โจทก์บางส่วนไปแล้วตามคำร้องนั้นเป็นเรื่องที่จำเลยทั้งสองจะต้องไปดำเนินการในชั้นบังคับคดี ให้ยกคำร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 53,52)
ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์แต่จำเลยทั้งสองไม่วางหลักประกันตามที่ศาลชั้นต้นกำหนด(อันดับ 45,47)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ชั้นอุทธรณ์จำเลยทั้งสองเคยขอทุเลาการบังคับเมื่อศาลอนุญาตแล้ว จำเลยทั้งสองก็ไม่หาหลักประกันมาวางตามที่ศาลกำหนด ฉะนั้นจึงไม่สมควรที่จะอนุญาตให้จำเลยทั้งสองทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกา ให้ยกคำร้อง
