แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องแล้วว่า จำเลยได้ทำร้ายผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายได้รับอันตรายสาหัสเพราะเหตุที่ได้ปฏิบัติการตามหน้าที่ ต่อมาโจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องโดยอ้างพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494มาตรา 16 การขอเพิ่มเติมฟ้องนี้ก็เพื่อชี้ให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นว่ามีกฎหมายรับรองความเป็นเจ้าพนักงานของผู้เสียหาย หาได้เป็นการอ้างกฎหมายขึ้นใหม่เพื่อให้ศาลลงโทษจำเลยหนักขึ้นประการใดไม่ ฉะนั้น การที่ศาลสั่งอนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมฟ้อง จึงไม่ขัดต่อกฎหมาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและเพิ่มเติมฟ้องว่า จำเลยทำร้ายร่างกายผู้เสียหายพนักงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297, 298 พระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 มาตรา 16
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297, 298 พระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494มาตรา 16
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาว่าศาลจะลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานไม่ได้และศาลให้โจทก์เพิ่มเติมฟ้องโดยอ้างพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 มาตรา 16 นั้น เป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 164,192
ศาลฎีกาเห็นว่า ฟ้องโจทก์บรรยายไว้ชัดแจ้งแล้วว่าจำเลยได้ทำร้ายผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายได้รับอันตรายแก่กายถึงสาหัส เพราะเหตุที่ได้ปฏิบัติการตามหน้าที่ ฉะนั้น ที่โจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องโดยอ้างพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 มาตรา 16 นั้น ก็เพื่อชี้ให้เห็นชัดยิ่งขึ้นว่ามีกฎหมายรับรองความเป็นเจ้าพนักงานของผู้เสียหาย โจทก์หาได้อ้างกฎหมายขึ้นใหม่เพื่อให้ศาลลงโทษจำเลยให้หนักขึ้นประการใดไม่ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมฟ้องจึงไม่ขัดต่อบทกฎหมายดังจำเลยอ้าง
พิพากษายืน