คำสั่งคำร้องที่ 1012/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า เนื่องจากผู้เสียหายตกลงประนีประนอมยอมความกับจำเลยได้โดยจำเลยได้นำเงินมาชำระให้ผู้เสียหายครบถ้วนตามข้อตกลงแล้วผู้เสียหายไม่ประสงค์จะเอาผิดแก่จำเลยอีกต่อไป จึงขอถอน คำร้องทุกข์ โปรดอนุญาต
หมายเหตุ โจทก์และจำเลยแถลงข้างคำร้องว่าไม่คัดค้าน(อันดับ 85)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3(2) การกระทำของจำเลยผิด 2 กรรม ให้เรียงกระทงลงโทษ ผิดตามคำฟ้องข้อ 1ก.จำคุก 2 เดือน ผิดตามคำฟ้องข้อ 1ข. จำคุก 3 เดือน รวมจำคุก5 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 3 เดือน 10 วัน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยยื่นฎีกา ฉบับลงวันที่ 23 เมษายน 2533 ศาลชั้นต้นสั่งว่าเป็นฎีกาข้อเท็จจริงแต่คดีนี้ผู้เสียหายขอถอนคำร้องทุกข์เห็นว่าข้อความที่ตัดสินเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดเพื่อพิจารณาคำร้องขอถอนคำร้องทุกข์ อนุญาตให้ฎีกาข้อเท็จจริง(อันดับ 76)ต่อมาจำเลยยื่นฎีกาอีกฉบับหนึ่งลงวันที่ 26 เมษายน2533 ศาลชั้นต้นสั่งว่าให้เบิกจำเลยมาถามว่าจะใช้ฎีกาฉบับใดและสอบจำเลยแล้ว รับว่าได้ยื่นฎีกาทั้ง 2 ฉบับ โดยตนเองเป็นผู้ลงชื่อฎีกา (อันดับ 81)
คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
ผู้เสียหายยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 85)

คำสั่ง
คดีนี้เป็นคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัว และยังไม่ถึงที่สุดผู้เสียหายจะถอนคำร้องทุกข์เสียเมื่อใดก็ได้ เมื่อผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) ให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ

Share