คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 236/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องแล้วว่า จำเลยได้ทำร้ายผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายได้รับอันตรายสาหัสเพราะเหตุที่ได้ปฏิบัติการตามหน้าที่ ต่อมาโจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องโดยอ้างพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 มาตรา 16 การขอเพิ่มเติมฟ้องนี้ ก็เพื่อชี้ให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นว่ามีกฎหมายรับรองความเป็นเจ้าพนักงานของผู้เสียหาย หาได้เป็นการอ้างกฎหมายขึ้นใหม่เพื่อให้ศาลลงโทษจำเลยหนักขึ้นประการใดไม่ ฉะนั้น การที่ศาลสั่งอนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมฟ้อง จึงไม่ขัดต่อกฎหมาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและเพิ่มเติมฟ้องว่า จำเลยทำร้ายร่างกายผู้เสียหายพนักงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๗, ๒๙๘ พระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๑๖
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๗, ๒๙๘ พระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๑๖
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาว่าศาลจะลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานไม่ได้ และศาลให้โจทก์เพิ่มเติมฟ้องโดยอ้างพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๑๖ นั้นเป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๔, ๑๙๒
ศาลฎีกาเห็นว่า ฟ้องโจทก์บรรยายไว้ชัดแจ้งแล้วว่าจำเลยได้ทำร้ายผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายได้รับอันตรายแก่กายถึงสาหัส เพราะเหตุที่ได้ปฏิบัติการตามหน้าที่ ฉะนั้น ที่โจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องโดยอ้างพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๑๖ นั้น ก็เพื่อชี้ให้เห็นชัดยิ่งขึ้นว่ามีกฎหมายรับรองความเป็นเจ้าพนักงานของผู้เสียหายโจทก์ หาได้อ้างกฎหมายขึ้นใหม่เพื่อให้ศาลลงโทษจำเลยให้หนักขึ้นประการใดไม่ ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมฟ้อง จึงไม่ขัดต่อบทกฎหมายดังจำเลยอ้าง
พิพากษายืน

Share