คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2356-2357/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ.2522มาตรา 29ออกข้อกำหนดศาลแรงงาน ว่าด้วยการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลแรงงาน ข้อ10นั้น’เป็นกรณีที่ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานออกข้อกำหนดให้ ศาลแรงงานกลางใช้ ดุลพินิจเลือกดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างหนึ่งอย่างใดก็ได้ตามที่เห็นสมควรเพื่อให้การดำเนินกระบวนพิจารณาบรรลุผลตามเจตนารมณ์ดังกล่าวหาใช่เป็นข้อกำหนดบังคับให้คู่ความถือ ปฏิบัติโดยที่ศาลแรงงานกลางมิได้มีคำสั่งไม่ เมื่อ ศาลแรงงานกลางมิได้มีคำสั่งตามข้อกำหนดดังกล่าว การยื่นบัญชีระบุพยานจำต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งซึ่งนำมาใช้บังคับโดยอนุโลม การที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ ยื่นบัญชีระบุพยาน หลังจากจำเลยซึ่งนำสืบ ก่อนสืบพยานไปบ้างแล้วนั้น เป็นการใช้ดุลพินิจสั่งตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 87(2)

ย่อยาว

โจทก์ทั้งสองสำนวนฟ้องว่าจำเลยมีคำสั่งลงโทษโจทก์ทั้งสองโดยตัดค่าจ้างอ้างว่าโจทก์ทั้งสองบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งไม่เป็นความจริง ขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว และให้จำเลยจ่ายค่าจ้างที่ถูกตัดคืนแก่โจทก์ทั้งสอง
จำเลยให้การว่า โจทก์ทั้งสองบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ จำเลยมีคำสั่งลงโทษโจทก์ทั้งสองตามข้อบังคับของจำเลย เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลย และให้จำเลยจ่ายค่าจ้างที่ตัดให้แก่โจทก์ทั้งสอง
จำเลยทั้งสองสำนวนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า การที่อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 29 ออกข้อกำหนดศาลแรงงาน ว่าด้วยการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลแรงงานข้อ 10 ว่า ในกรณีที่ศาลแรงงานสั่งให้มีการสืบพยาน ศาลจะสอบถามโจทก์และจำเลยแต่ละฝ่ายว่าประสงค์จะอ้างและสืบพยานใดบ้าง หรือจะให้คู่ความทำบัญชีระบุพยานยื่นต่อศาลในวันนั้น หรือภายในกำหนด 2 วันก็ได้นั้น เป็นกรณีที่อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางออกข้อกำหนดให้ศาลแรงงานกลางใช้ดุลพินิจเลือกดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างหนึ่งอย่างใดก็ได้ตามที่เห็นสมควรเพื่อให้การดำเนินกระบวนพิจารณาบรรลุผลตามเจตนารมณ์ดังกล่าว หาใช่เป็นข้อกำหนดบังคับให้คู่ความถือปฏิบัติโดยที่ศาลแรงงานมิได้มีคำสั่งไม่ เมื่อศาลแรงงานกลางมิได้มีคำสั่งตามข้อกำหนดดังกล่าว การยื่นบัญชีระบุพยานจำต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ซึ่งนำมาใช้บังคับโดยอนุโลมตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 31 การที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานซึ่งโจทก์ยื่นหลังจากจำเลยซึ่งนำสืบก่อนสืบพยานไปบ้างแล้วนั้นเป็นกรณีที่ศาลแรงงานกลางสั่งอนุญาตโดยเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จำเป็นจะต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี อันเป็นการใช้ดุลพินิจสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2) ถือว่า โจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานโดยชอบแล้วศาลแรงงานกลางย่อมมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานของโจทก์ได้ ทั้งโจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานโดยขออ้างโจทก์ทั้งสองเป็นพยานเท่านั้น มิได้อ้างพยานบุคคลหรือเอกสารอื่นใด จึงไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
พิพากษายืน

Share