คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2346/2522

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยรับใบอนุญาตค้าไม้แปรรูป จำเลยขนไม้แปรรูปจากโรงงานอีกแห่งหนึ่งซึ่งจำเลยจ้างให้สลักลวดลาย โดยโรงงานมิได้ออกใบอนุญาตกำกับ จำเลยไม่มีความผิดฐานมีไม้เพื่อการค้าโดยไม่มีใบอนุญาต ลงโทษในความผิดฐานขนไม้แกะสลักเคลื่อนที่ ฯ ไม่ได้ เป็นเรื่องนอกฟ้อง

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ จำคุกจำเลย1 ปี ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 53 ตรี, 73 ทวิ ฉบับที่ 4พ.ศ. 2518 มาตรา 21, 27 ของกลางริบ จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า วันเกิดเหตุนายธวัชชัยกับพวกเจ้าพนักงานป่าไม้จับกุมจำเลยได้พร้อมด้วยไม้สักแกะสลักลวดลายของกลาง จำนวน 69 ชิ้น ปริมาตร 1.566 ลูกบาศก์เมตรซึ่งเป็นชิ้นส่วนประกอบของโต๊ะเก้าอี้ชุดรับแขกคือพนักพิงหลัง พนักเท้าแขนและพื้นโต๊ะ ปรากฏตามภาพถ่ายหมาย จ.3 ไม้แกะสลักของกลางดังกล่าวเป็นสิ่งประดิษฐ์หรือชิ้นส่วนของเครื่องใช้ที่ทำด้วยไม้หวงห้าม คดีมีปัญหาว่าจำเลยได้กระทำผิดตามฟ้องหรือไม่

ศาลฎีกาเห็นว่า ตามคำฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยมีไม้สักแกะสลักอันเป็นสิ่งประดิษฐ์เครื่องใช้ที่ทำด้วยไม้หวงห้าม มีปริมาณและขนาดเกินกว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศกำหนดไว้ในความครอบครองเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมายและขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 53 ตรี,73 ทวิ, 74 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2518 มาตรา 21, 27กฎกระทรวงฉบับที่ 22 (พ.ศ. 2518) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ. 2484 ข้อ 1 ซึ่งเป็นบทมาตราขอให้ลงโทษเฉพาะ กรณีกระทำผิดฐานมีสิ่งประดิษฐ์เครื่องใช้ที่ทำด้วยไม้หวงห้ามไว้ในความครอบครองเพื่อการค้าโดยมิได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงาน แต่ข้อเท็จจริงทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยมีร้านค้าแกะสลักไม้อยู่ที่อำเภอสันกำแพง และมีใบอนุญาตค้า หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อการค้าซึ่งสิ่งประดิษฐ์เครื่องใช้หรือสิ่งอื่นใดบรรดาที่ทำด้วยไม้หวงห้ามตามเอกสารหมาย ล.2 จำเลยซื้อโต๊ะเก้าอี้ชุดรับแขกที่ยังไม่ได้แกะสลักจากสหกรณ์ต่าง ๆ แล้วรื้อชิ้นส่วนประกอบบางส่วนให้โรงงานของนางสาวอัมพรที่อำเภอสันป่าตองแกะสลักลวดลาย ในวันเกิดเหตุจำเลยนำไม้ของกลางที่แกะสลักแล้วจากโรงงานของนางสาวอัมพรบรรทุกรถยนต์เพื่อนำกลับร้านของจำเลยก็ถูกจับเสียก่อนดังนี้ ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีไม้แกะสลักของกลางไว้ในครอบครอง เพื่อการค้าโดยมิได้รับใบอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ อนึ่ง แม้ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 22 (พ.ศ. 2518)ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ว่าด้วยการค้าหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อการค้าซึ่งสิ่งประดิษฐ์ เครื่องใช้หรือสิ่งอื่นใด บรรดาที่ทำด้วยไม้หวงห้าม ข้อ 4 บังคับว่าเมื่อผู้ใดรับใบอนุญาตได้จำหน่ายหรือนำเคลื่อนที่ไปจากสถานที่ค้า หรือสถานที่ครอบครองเพื่อการค้า ต้องทำหลักฐานกำกับสิ่งประดิษฐ์ เครื่องใช้ฯ เป็นหนังสือตามแบบท้ายกฎกระทรวง มอบให้แก่ผู้รับโอนหรือผู้นำเคลื่อนที่ทุกคราว ได้ความว่าขณะที่จำเลยถูกจับกุมนั้นจำเลยไม่มีหนังสือกำกับไม้แกะสลัก ของกลาง แต่ได้นำหนังสือกำกับไม้แกะสลักของกลางจากนางสาวอำพรแสดงภายหลังที่ถูกจับกุมแล้ว ความผิดของจำเลยหากจะมีก็อยู่ที่จำเลยไม่มีหนังสือกำกับการนำไม้แกะสลักของกลางเคลื่อนที่ อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 58ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2518 มาตรา 23และกฎกระทรวง ฉบับที่ 22 (พ.ศ. 2518) ฯลฯ ข้อ 4 ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษ เพราะมิได้กล่าวบรรยายและอ้างบทมาตราในฟ้อง คดีจึงลงโทษจำเลยไม่ได้”

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

Share