คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2336/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยนำรถจักรยานยนต์ของกลางไปจอดไว้ใต้ต้นไผ่ในสวนกาแฟห่างจากทางเดินประมาณ 100 เมตร และห่างจากลาน ตากกาแฟซึ่งเป็นที่พบตัวจำเลยประมาณ 500 เมตร อันเป็นการจอดในลักษณะซุกซ่อนประกอบกับจำเลยมีอาการตกใจเมื่อพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ และปฏิเสธเมื่อถูกซักถามถึงรถจักรยานยนต์ของกลาง พฤติการณ์ของจำเลยจึงฟังได้ว่าจำเลยรับรถจักรยานยนต์ของกลางไว้ โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดอันเป็นความผิดฐานรับของโจร.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานรับของโจรตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 357
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 357 ให้จำคุก 2 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้วข้อเท็จจริงรับฟังได้ในเบื้องต้นว่า เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2530 เวลากลางวันเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมจำเลยได้ที่สวนกาแฟนายดำ จันทรัศมีตำบลทะเลทรัพย์ อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร พร้อมด้วยรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน 8 ง 5718 กรุงเทพมหานคร ของนายวาสิทธิ์เกียรติบุญญาฤทธิ์ เป็นของกลาง ซึ่งนายพรหมมาตย์หรือติ๊ก การะเวกยักยอกมาจากนายฉลอง โปร่งอากาศ แล้วนำมาฝากจำเลยไว้ ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยมีว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่พันตำรวจตรีธนน ปิยะรัตน์ และร้อยตำรวจตรี ประคีน ทองนอก พยานโจทก์ทั้งสองผู้ทำการจับกุมจำเลยเบิกความสอดคล้องกันว่า เมื่อไปพบจำเลยนั้นจำเลยตกใจทำท่าจะวิ่งหนี และเมื่อสอบถามถึงรถจักรยานยนต์ของกลางตอนแรกจำเลยปฏิเสธ นายดาบตำรวจสนั่น ยมกลางและร้อยตำรวจโทธวัช วังพฤกษ์ ที่ร่วมจับกุมจำเลยด้วยก็เบิกความยืนยันว่าสอบถามถึงรถจักรยานยนต์ของกลางครั้งแรกจำเลยปฏิเสธเกี่ยวกับสถานที่พบรถจักรยานยนต์ของกลางที่จำเลยนำไปจอดไว้ได้ความจากทางนำสืบของโจทก์จำเลยว่าจอดไว้ใต้ต้นไผ่ในสวนกาแฟพยานโจทก์ดังกล่าวทุกคนยืนยันว่ารถจักรยานยนต์ของกลางจอดห่างจากทางเดินประมาณ 100 เมตรต้องบุกป่าเข้าไป ตามแผนที่เกิดเหตุมีที่พักคนงานและที่สำหรับจอดรถจักรยานยนต์ด้วย ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบจำเลยที่ลานตากกาแฟ จำเลยเองก็เบิกความยอมรับว่าได้พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะยืนอยู่ที่ลานตากกาแฟนี้จากคำเบิกความของพันตำรวจตรีธนน ร้อยตำรวจตรีประคีนนายดาบตำรวจสนั่น และร้อยตำรวจโทธวัช ก็ได้ความว่าลานตากกาแฟอยู่ห่างจากที่พบรถจักรยานยนต์ของกลางประมาณ 500 เมตร ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าสถานที่ที่จำเลยเอารถจักรยานยนต์ของกลางไปจอดไว้อยู่ห่างจากที่พบจำเลยประมาณ 500 เมตร และจอดอยู่ในลักษณะซ่อนเอาไว้ ที่จำเลยนำสืบว่าเอาไปจอดไว้เพื่อหลบแดดนั้นขัดต่อเหตุผลเพราะที่จอดรถจักรยานยนต์ของคนงานก็มี และไม่ปรากฏว่าที่จอดรถของคนงานนั้นไม่มีที่บังแดดหรือไม่มีที่อื่นที่ใกล้ ๆ จะจอดหลบแดดได้ จึงต้องนำไปจอดไว้ห่างมากเช่นนี้ การที่จำเลยจอดรถจักรยานยนต์ของกลางไว้ในลักษณะซุกซ่อน และมีอาการตกใจเมื่อพบเจ้าหน้าที่ตำรวจกับปฏิเสธในครั้งแรกเมื่อถูกถามถึงรถจักรยานยนต์ของกลางจึงเชื่อว่าจำเลยได้รับฝากรถจักรยานยนต์ของกลางไว้จากนายพรหมมาตย์หรือติ๊ก การะเวก โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานยักยอก จำเลยจึงมีความผิดฐานรับของโจรดังที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัย…”
พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 357วรรคแรก ให้จำคุก 2 ปี.

Share