คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2335/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่ผู้ร้องได้บอกเลิกสัญญาและขอรับรถยนต์บรรทุกและรถกึ่งพ่วงของกลางคืนจากผู้เช่าซื้อก่อนที่ศาลสั่งริบรถยนต์บรรทุกและรถกึ่งพ่วงของกลางในคดีนี้แล้วนั้น แสดงว่าผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดของจำเลย

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 295 ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยและสั่งริบรถยนต์บรรทุกและรถกึ่งพ่วงของกลาง
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของและมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลย ขอให้สั่งคืนรถยนต์บรรทุกและรถกึ่งพ่วงของกลางดังกล่าวให้แก่ผู้ร้อง
โจทก์ยื่นคำคัดค้าน ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ให้คืนรถยนต์บรรทุกและรถกึ่งพ่วงของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “จะเห็นได้ว่าการที่ผู้ร้องได้บอกเลิกสัญญาและขอรับรถยนต์บรรทุกและรถกึ่งพ่วงของกลางคืนจากผู้เช่าซื้อก่อนที่ศาลสั่งริบรถยนต์บรรทุกและรถกึ่งพ่วงของกลางในคดีนี้แล้วนั้นพฤติการณ์ของผู้ร้องดังกล่าวย่อมเป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นได้ว่าการร้องขอรถยนต์บรรทุกและรถกึ่งพ่วงของกลางคืนจากศาล ผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดของจำเลยด้วยแต่ประการใด”
พิพากษายืน

Share