คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2333/2558

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้อหาตามฟ้องโจทก์เป็นกรณีที่โจทก์ผู้ขนส่งเรียกร้องเอาค่าระวางขนส่งทางอากาศจากจำเลยผู้ว่าจ้าง แม้จะไม่มีกฎหมายบัญญัติกำหนดอายุความในการใช้สิทธิเรียกร้องเงินค่าระวางขนส่งทางอากาศไว้โดยเฉพาะ แต่การให้บริการของโจทก์เป็นการรับขนส่งสิ่งของเพื่อบำเหน็จทางการค้าปกติ ถือเป็นกรณีที่โจทก์ผู้ขนส่งสิ่งของเรียกเอาค่าระวางขนส่งตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/34 (3) ที่บัญญัติว่า สิทธิเรียกร้องดังกล่าวมีกำหนดอายุความ 2 ปี ดังนั้น สิทธิเรียกร้องของโจทก์ที่เรียกร้องให้จำเลยชำระค่าระวางขนส่งทางอากาศจึงตกอยู่ในบังคับอายุความ 2 ปี ตามบทกฎหมายดังกล่าว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 400,493 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 341,815 บาท นับแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2551 อันเป็นวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 341,815 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 23 มีนาคม 2549 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่ดอกเบี้ยคำนวณถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2551 อันเป็นวันฟ้องต้องไม่เกินจำนวน 58,678 บาท กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 5,000 บาท
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยประการแรกว่า สิทธิเรียกร้องของโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ เห็นว่า โจทก์ฟ้องโดยบรรยายสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาว่า จำเลยได้ว่าจ้างโจทก์ให้ขนส่งสินค้าเนื้อไก่สดแช่แข็ง จำนวน 5,995 กิโลกรัม ของบริษัทสหฟาร์ม จำกัด ทางอากาศ จากท่าอากาศยานกรุงเทพไปยังกรุงลอนดอนและโจทก์ได้ดำเนินการขนส่งสินค้าจำนวนดังกล่าวไปยังกรุงลอนดอนเรียบร้อยแล้ว คิดเป็นค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าทางอากาศเป็นเงิน 834,809.84 บาท ต่อมาจำเลยชำระค่าขนส่งสินค้าบางส่วนจำนวน 492,616.48 บาท จึงยังคงค้างชำระค่าบริการขนส่งจำนวน 341,815 บาท โจทก์มีใบแจ้งหนี้ทวงถามจำเลยให้ชำระหนี้จำนวน 341,815 บาท ภายในกำหนดเวลา 30 วัน นับแต่วันที่จำเลยได้รับใบแจ้งหนี้ จำเลยได้รับใบแจ้งหนี้แต่จำเลยไม่ชำระหนี้แก่โจทก์ภายในกำหนด ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย โจทก์ขอคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 341,815 บาท นับแต่วันที่ 23 มีนาคม 2549 ซึ่งเป็นวันผิดนัดจนถึงวันฟ้อง เป็นเวลา 2 ปี 3 เดือน 14 วัน คิดเป็นดอกเบี้ย 58,678 บาท รวมเป็นต้นเงินและดอกเบี้ยจำนวน 400,493 บาท เห็นได้ว่าข้อหาตามฟ้องโจทก์เป็นกรณีที่โจทก์ผู้ขนส่งเรียกร้องเอาค่าระวางขนส่งทางอากาศจากจำเลยผู้ว่าจ้าง แม้จะไม่มีกฎหมายบัญญัติกำหนดอายุความในการใช้สิทธิเรียกร้องเงินค่าระวางขนส่งทางอากาศไว้โดยเฉพาะ แต่การให้บริการของโจทก์เป็นการรับขนส่งสิ่งของเพื่อบำเหน็จทางการค้าปกติ ถือเป็นกรณีที่โจทก์ผู้ขนส่งสิ่งของเรียกเอาค่าระวางขนส่ง ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34 (3) มีบัญญัติไว้แล้วว่า สิทธิเรียกร้องดังกล่าวมีกำหนดอายุความ 2 ปี ดังนั้น สิทธิเรียกร้องของโจทก์ที่เรียกร้องให้จำเลยชำระค่าระวางขนส่งทางอากาศจำนวน 341,815 บาท จึงตกอยู่ในบังคับอายุความ 2 ปี ตามบทกฎหมายดังกล่าว โจทก์จึงต้องฟ้องคดีนี้ภายในกำหนดเวลา 2 ปี นับแต่วันที่ 23 มีนาคม 2549 อันเป็นวันที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ฟ้องและโจทก์อาจบังคับสิทธิเรียกร้องนั้นได้ แต่โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2551 จึงพ้นกำหนดเวลา 2 ปี สิทธิเรียกร้องตามฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความแล้ว โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกร้องให้จำเลยชำระค่าระวางขนส่งตามฟ้อง คดีไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาตามอุทธรณ์ของจำเลยในข้ออื่นอีกต่อไป ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ค่าระวางแก่โจทก์นั้น ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ

Share