แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นนายจ้างให้ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างในผลแห่งละเมิดที่จำเลยที่ 1 ได้กระทำไปในทางการที่จ้าง กรณีจึงเป็นเรื่องเกี่ยวด้วยการชำระหนี้อันไม่อาจจะแบ่งแยกได้ แม้จำเลยที่ 1 จะมิได้ฎีกา คงฎีกาขึ้นมาแต่เฉพาะจำเลยที่ 2 แต่เมื่อศาลฎีกาฟังว่าจำเลยที่ 1 มิได้ขับรถโดยประมาท พิพากษายกฟ้องโจทก์ ก็ย่อมให้จำเลยที่ 1 ได้รับผลจากคำพิพากษานี้ด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 245(1) ประกอบด้วยมาตรา 247
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 3 ที่ 4เป็นบริษัทประกันภัย จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์บรรทุกของจำเลยที่ 2ในทางการที่จ้างไปตามถนนสายกรุงเทพ – สระบุรี จากดอนเมืองโฉมหน้าไปสะพานลาดพร้าว ด้วยความประมาท เมื่อขับเลยสี่แยกบางเขนไปได้ประมาณ 50 เมตร ก็ชนท้ายรถจักรยานยนต์ของโจทก์อย่างแรงเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับอันตรายสาหัส ได้รับความเสียหายคิดเป็นเงินรวม 177,303บาท ขอให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันใช้ค่าเสียหายดังกล่าวแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 2 ไม่ได้เป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1ไม่ได้เป็นผู้ครอบครองรถบรรทุกคันเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 เช่ารถยนต์คันดังกล่าวจากจำเลยที่ 2 ไปประกอบธุรกิจส่วนตัว เหตุเกิดขึ้นเพราะเป็นความประมาทเลินเล่อของโจทก์เอง จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิด ค่าเสียหายสูงเกินไป ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 3 ที่ 4 ให้การว่า ไม่เคยรับประกันภัยรถบรรทุกคันเกิดเหตุขอให้ยกฟ้อง
ก่อนเริ่มต้นสืบพยาน โจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยที่ 3 ที่ 4 ศาลอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่า จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 2 ขับรถในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 โดยความประมาทชนรถจักรยานยนต์ของโจทก์เสียหาย และโจทก์ได้รับอันตรายสาหัส พิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ 95,803 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย ฯลฯ
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า เหตุเกิดขึ้นเพราะโจทก์ขับขี่รถจักรยานยนต์แซงรถบรรทุกที่จำเลยที่ 1 ขับ แล้วแฉลบล้มลงหน้ารถยนต์บรรทุกคันที่จำเลยที่ 1ขับในระยะกระชั้นชิด จึงพ้นวิสัยที่จำเลยที่ 1 จะหยุดรถได้ทัน จำเลยที่ 1 มิได้ขับรถโดยความประมาท และวินิจฉัยต่อไปว่าเมื่อฟังข้อเท็จจริงได้ดังนี้ แม้จำเลยที่ 1มิได้อุทธรณ์ฎีกา แต่คดีนี้เป็นคดีที่เกี่ยวด้วยการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้จึงให้จำเลยที่ 1 ได้รับผลจากคำพิพากษานี้ด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 245(1) ประกอบด้วยมาตรา 247
พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์