คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายได้บัญญัติกระบวนพิจารณาไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 โดยเฉพาะ ไม่อาจนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เรื่องการขาดนัดพิจารณามาอนุโลมใช้ในเรื่องนี้ได้

ย่อยาว

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีที่ศาลแพ่งมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาด เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ส่งหมายนัดให้ผู้ขอรับชำระหนี้นำพยานหลักฐานมาให้ทำการสอบสวน ถึงวันนัดผู้ขอรับชำระหนี้ไม่มาเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงมีคำสั่งให้งดการสอบสวนพยานผู้ขอรับชำระหนี้และทำรายงานความเห็นต่อศาลว่าควรยกค่าขอรับชำระหนี้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเห็นชอบด้วย

ผู้ขอรับชำระหนี้อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการพิจารณาคำขอรับชำระหนี้ใหม่

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่ผู้ขอรับชำระหนี้ไม่มาและไม่นำพยานมาเพื่อให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทำการสอบสวนตามนัด จะถือว่าเป็นการละเลยของผู้รับชำระหนี้ยังไม่ถนัดเพราะได้ความว่าผู้รับหมายนัดนั้นเป็นคนรับใช้ในบ้านของนายภาสกรผู้รับมอบอำนาจจากผู้ขอรับชำระหนี้คนรับใช้รับหมายไว้แล้วไม่มอบให้นายภาสกรทราบก็อาจเป็นได้ และแม้ว่าในหมายนัดจะมีเงื่อนไขกำชับไว้ด้วยว่า หากไม่นำพยานมาตามนัด ถือว่าไม่มีพยานหรือไม่ติดใจนำพยานมาให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนเงื่อนไขดังกล่าวก็จะใช้บังคับอย่างเด็ดขาดยังไม่ได้ทั้งคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายได้บัญญัติกระบวนพิจารณาไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 โดยเฉพาะ ไม่อาจนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเรื่องการขาดนัดพิจารณามาอนุโลมใช้ในเรื่องคำขอรับชำระหนี้รายนี้ได้ นอกจากนี้ยังปรากฏว่าการขอรับชำระหนี้รายนี้ลูกหนี้หรือเจ้าหนี้รายอื่นก็ไม่ได้โต้แย้งแต่ประการใด การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทำรายงานความเห็นต่อศาลว่าควรยกคำขอรับชำระหนี้โดยอาศัยเหตุเพียงว่าผู้ขอรับชำระหนี้ไม่นำพยานมาให้สอบสวนตามนัด เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ยังไม่ชอบ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย

พิพากษายืน

Share