แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๖๑ เวลากลางวัน  จำเลยเอาปืนยิงนายพริ้ง ๑ นัด  แต่กระสุนปืนหาถูกนายพริ้งไม่ขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๔๙-๒๕๐-๖๐ ฯ
จำเลยให้การปฏิเสธข้อหา  แลแก้ว่าที่ได้ยินเสียงปืนยิงนั้น คือนายอยู่น้องภรรยาจำเลยเอาปืนยิงไก่ในบ้านของจำเลย ฯ
ศาลจังหวัดชัยนาทพร้อมด้วยอธิบดีมณฑลพิจารณาแล้ว  ฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้ใช้อาวุธปืนยิงนายพริ้งด้วยความเจตนาจะฆ่านายพริ้ง  แต่กระสุนปืนหาถูกนายพริ้งไม่  จึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๔๙-๖๐ ให้จำคุกจำเลยมีกำหนด ๑๒ ปี ฯ
จำเลยอุทธรณ  ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษพิพากษาแก้แต่ข้อกำหนดโทษ  คือ  ให้วางโทษจำคุกจำเลยฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนากำหนด ๑๐ ปี  แต่จำเลยรู้สึกตัวกลัวความผิดได้ไปพูดกับมารดาของจำเลยว่าจำเลยจะไม่ทำนายพริ้งอีกต่อไป  ให้ลดโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๕๙ ลงกึ่งหนึ่ง  คงให้จำคุกจำเลยมีกำหนด ๕ ปี ฯ
โจทย์ทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกาว่าไม่ควรลโทษจำเลยตามาตรา ๕๙ ฯ
กรรมการศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนเรื่องนี้แล้ว  ข้อเท็จจริงในคดีเรื่องนี้มิได้มีปัญหาขึ้นมาสู่ศาลฎีกาไม่  ในชั้นฎีกานี้คงมีปัญหาแต่ว่าควรลดโทษจำเลยฤาไม่  ศาลฎีกาเห็นว่าถึงแม้จำเลยจะได้พูดกับมารดาของตนให้มารดาของจำเลยรู้ว่า  จำเลยได้เอาปืนยิงนายพริ้งน้องชาย  แลจำเลยกล่าวว่าจะไม่ทำนายพริ้งต่อไปก็ดี  แต่จำเลยไม่ได้แสดงความจริงในชั้นเจ้าพนักงานไต่สวนฤาชั้นศาลพิจารณาจำเลยกลับให้การปฏิเสธเสียทีเดียวดังนี้  คดีไม่เข้าบทที่บัญญัติให้ลดโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๕๙ จึงพร้อมกันพิพากษาให้แก้คำพิพากษาศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษข้อที่ลดโทษจำเลยตามารตรา ๕๙ นั้นให้ยกเสีย  คงให้จำคุกจำเลยฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาตามที่ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษกำหนดมา ๑๐ ปีนั้น ฯ

