คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6177/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามปกติโจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อจะต้องเป็นผู้รับสินค้าจากจำเลยผู้ขายเมื่อโจทก์สั่งให้จำเลยส่งสินค้าที่ซื้อนั้นไปยังลูกค้าของโจทก์ซึ่งอยู่ต่างประเทศจำเลยได้จัดการส่งสินค้าตามที่โจทก์สั่งเช่นนี้ลูกค้าของโจทก์ผู้รับสินค้าย่อมเป็นตัวแทนของโจทก์โดยปริยายในการตรวจรับสินค้าเมื่อมีการตรวจพบว่าสินค้าชำรุดบกพร่องตัวแทนของโจทก์ย่อมตรวจพบได้ในวันนั้นเช่นกันต้องถือว่าโจทก์ได้ตรวจพบในวันนั้นแล้วดังนั้นการที่จำเลยส่งสินค้าไปยังลูกค้าของโจทก์ซึ่งอยู่ต่างประเทศตามคำสั่งของโจทก์และได้มีการตรวจพบความชำรุดบกพร่องของสินค้าเมื่อวันที่18เมษายน2531จึงต้องถือว่าโจทก์ได้พบเห็นความชำรุดบกพร่องของสินค้าที่ซื้อจากจำเลยในวันนั้นสิทธิในการที่โจทก์จะฟ้องเพื่อให้จำเลยรับผิดเพื่อชำรุดบกพร่องเกิดมีขึ้นตั้งแต่วันที่18เมษายน2531แล้วหาใช่ตั้งแต่วันที่ลูกค้าของโจทก์แจ้งให้โจทก์ทราบถึงความชำรุดบกพร่องของสินค้านั้นไม่เมื่อนับวันที่โจทก์เกิดสิทธิฟ้องจนถึงวันที่โจทก์ฟ้องพ้นเวลาหนึ่งปีแล้วฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยตกลงขายไม้อัดเนื้ออ่อนปริมาตร2,000 ลูกบาศก์เมตร ราคา 770,000 เหรียญสหรัฐ แก่โจทก์โดยส่งมอบให้แก่บริษัทอินเตอร์ฟอเรสต์ อินเวสเมนต์แอนด์ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด ลูกค้าใหญ่ ณ เมืองท่าฮวงปูประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายการขนส่งและค่าประกันภัยสินค้า โจทก์ชำระราคาไม้อัดให้จำเลยแล้วแต่ไม้อัดที่จำเลยส่งมอบชำรุดบกพร่อง คุณภาพต่ำ ไม่ได้มาตรฐานลูกค้าโจทก์เรียกร้องค่าเสียหายจากโจทก์ โจทก์จึงแจ้งให้จำเลยทราบแต่จำเลยไม่ยอมเจรจาเรื่องความเสียหาย โจทก์ต้องดำเนินการเจรจากับลูกค้าโจทก์เอง เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปตรวจความเสียหาย 8,000 เหรียญสหรัฐ ความเสียหายของสินค้าเป็นเงิน 140,000 เหรียญสหรัฐ ค่าใช้จ่ายในการติดต่อกับจำเลยที่กรุงเทพมหานครจำนวน 8,000 เหรียญสหรัฐระหว่างรอตรวจสอบเสียค่าพักไม้ไว้ในคลังสินค้า 20,000 เหรียญสหรัฐและจำเลยไม่ชำระค่าประกันภัยในเรือที่ขนสินค้าให้ครบถ้วนโจทก์ชำระไปก่อนจำนวน 3,217.50 เหรียญสหรัฐ รวมค่าเสียหายทั้งสิ้น 179,217.50 เหรียญสหรัฐ โจทก์ทวงถามแล้วจำเลยไม่ชำระ คิดเป็นเงินไทยขณะฟ้องคดี 4,620,227.10 บาทพร้อมกับดอกเบี้ยถึงวันฟ้องเป็นเงิน 182,277.23 บาทขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 4,802,504.30 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของเงิน 4,620,227.10 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยผิดสัญญาต่อโจทก์ จำเลยขายไม้อัดเนื้ออ่อนตามฟ้องให้โจทก์ โดยส่งไปที่เมืองฮวงปูประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน จำเลยมีหน้าที่ส่งมอบสินค้าให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อเท่านั้น โจทก์ขายต่อให้ใครจำเลยไม่ทราบเมื่อสินค้าเปลี่ยนมือไปยังบุคคลอื่นแล้ว จำเลยพ้นหน้าที่รับผิดชอบโจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องเกินกว่า 1 ปีนับแต่เวลาที่พบเห็น ต้องห้ามมิให้ฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 2,010,839.90 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของเงินจำนวนดังกล่าวนับ>แต่วันที่ 12 ตุลาคม 2531 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์คำขออื่นให้ยก
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สำหรับค่าเสียหายซึ่งเป็นปัญหามาสู่ศาลฎีกาคงมีแต่เฉพาะค่าเสียหายอันเกิดจากความชำรุดบกพร่องของไม้อัดที่จำเลยขายให้โจทก์เท่านั้น ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 474 บัญญัติไว้ว่า”ในข้อรับผิดเพื่อชำรุดบกพร่องนั้น ท่านห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นเวลาปีหนึ่งนับแต่เวลาที่ได้พบเห็นความชำรุดบกพร่อง”เห็นว่า ตามปกติโจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อจะต้องเป็นผู้รับสินค้าจากจำเลยผู้ขาย เมื่อโจทก์สั่งให้จำเลยส่งสินค้าที่ซื้อนั้นไปยังลูกค้าของโจทก์ที่เมืองฮวงปู ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน จำเลยได้จัดการส่งสินค้าตามที่โจทก์สั่งเช่นนี้ ลูกค้าของโจทก์ผู้รับสินค้าย่อมเป็นตัวแทนของโจทก์โดยปริยายในการตรวจรับสินค้าเมื่อมีการตรวจพบว่าสินค้าชำรุดบกพร่อง ตัวแทนของโจทก์ย่อมตรวจพบได้ในวันนั้นเช่นกัน ต้องถือว่าโจทก์ได้ตรวจพบในวันนั้นแล้วดังนั้น การที่จำเลยส่งไม้อัดไปยังลูกค้าของโจทก์ที่เมืองฮวงปูประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามคำสั่งของโจทก์และได้มีการตรวจพบความชำรุดบกพร่องของไม้อัดเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2531จึงต้องถือว่าโจทก์ได้พบเห็นความชำรุดบกพร่องของไม้อัดที่ซื้อจากจำเลยในวันนั้น สิทธิในการที่โจทก์จะฟ้องเพื่อให้จำเลยรับผิดเพื่อชำรุดบกพร่องเกิดมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2531แล้ว หาใช่ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2531 อันเป็นวันที่ลูกค้าของโจทก์แจ้งให้โจทก์ทราบไม่ เมื่อนับวันที่โจทก์เกิดสิทธิฟ้องจนถึงวันที่โจทก์ฟ้องพ้นเวลาหนึ่งปีแล้ว ฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ
พิพากษากลับ ให้ยก ฟ้องโจทก์

Share