แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ย่อยาว
โจทย์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกเข้ามาในที่ลานนวดเข้าของโจทย์จำเลยขอเขาฟ่อนเข้าของโจทย์ออกเสีย แล้วเอาฟ่อนเข้าของจำเลยมากองไว้ ขอให้ศาลห้ามอย่าให้จำเลยเกี่ยวข้องในที่นี้ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทย์ ๒๐ บาท ฯ
จำเลยให้การต่อสู้กรรมสิทธิว่าเปนที่ของจำเลย โจทย์ได้มาขออาศรัยทำลานนวดเข้ามา ๖ ปีแล้ว ครั้นปีนี้จำเลยจะต้องการที่กองฟ่อนเข้า จำเลยได้บอกกับโจทย์แล้ว จำเลยจึงเอาฟ่อนเข้าของจำเลยมากองในที่นี้ ฯ
ศาลจังหวัดราชบุรีพิจารณาคดีแล้ว ฟังคำพยานโจทย์ว่าที่รายนี้เปนของโจทย์ ๆ ได้ปกครองมา ๖ ปีแล้ว จึงพิพากษาห้ามอย่าให้จำเลยมาเกี่ยวข้องในที่รายพิภาษนี้ ฯ
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ข้าหลวงพิเศษฟังคำพยานจำเลยว่า ที่รายนี้เปนของจำเลยให้โจทย์อาศรัย จึงพิพากษากลับคำพิพากษาเดิมให้ยกฟ้องของโจทย์เสีย ฯ
โจทย์ทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกาคัดค้านในข้อเท็จจริง ฯ
กรรมการศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนเรื่องนี้แล้ว เห็นว่าที่รายนี้ยังไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินทั้ง ๒ ฝ่าย เมื่อฟังคำพยานทั้ง ๒ ฝ่ายแล้วเห็นว่าจำเลยมีพยานเบิกความสมว่าจำเลยได้ทำในที่รายนี้มาก่อน พยานบางคนเคยอาศรัยที่รายนี้ต่อจำเลยทำลานนวดเข้าแล้วโจทย์จึงมาขออาศรัยที่นี้ต่อจำเลยทำลานนวดเข้าต่อมา พยานเหล่านี้บางคนก็ทำนาอยู่ใหล้เคียงที่รายพิภาษนี้ พยานอาจรู้ดีกว่าคนที่อยู่ห่างไกล ควรฟังเปนความจริงได้ว่าที่รายพิภาษนี้เปนของจำเลยให้โจทย์อาศรัย ศาลอุทธรณ์ข้าหลวงพิเศษพิพากษายกฟ้องโจทย์เสียนั้นชอบแล้ว ให้ยกฎีกาของโจทย์เสีย ให้โจทย์เสียเงินค่าทนายให้จำเลยในชั้นฎีกานี้ ๕๐ บาท ฯ