คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2316/2533

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยการบังคับคดีของเจ้าพนักงานบังคับคดี พ.ศ. 2522 ข้อ 83 มีข้อความว่า “ตามปกติ”แสดงว่าระเบียบนี้มิได้บังคับตายตัว อาจจะตกลงหรือมีคำสั่งอันเป็นที่รับรู้กันแล้วปฏิบัตินอกเหนือไปได้ และได้มีคำสั่งของอธิบดีกรมบังคับคดีตั้งแต่ พ.ศ. 2530 ว่า ในการขายทอดตลาดให้เจ้าพนักงานบังคับคดีนับหนึ่งถึงสอง แล้วนำเสนอรองอธิบดีกรมบังคับคดีเพื่อมีคำสั่งอนุมัติให้ขายตามราคาที่มีผู้ประมูลสูงสุดหรือไม่ เมื่อมีคำสั่งประการใดให้ถือว่าเป็นเด็ดขาด ในกรณีรองอธิบดีกรมบังคับคดีมีคำสั่งอนุมัติให้ขายเจ้าพนักงานบังคับคดีจะนับสามและเคาะไม้โดยไม่เปิดโอกาสให้มีการสู้ราคากันอีก ทั้งก่อนที่จะขายทอดตลาดที่ดินรายพิพาทเจ้าพนักงานบังคับคดีได้แจ้งให้ผู้ประมูลซื้อที่ดินรวมทั้งโจทก์และผู้คัดค้านทราบคำสั่งของอธิบดีกรมบังคับคดีเกี่ยวกับการขายทอดตลาดแล้ว คำสั่งของอธิบดีกรมบังคับคดีดังกล่าวจึงเป็นคำโฆษณาบอกขายหรือข้อความอื่น ๆ ซึ่งผู้ขายทอดตลาดได้แถลงก่อนเผดิมการขายทรัพย์เฉพาะรายตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 510 ผู้ซื้อในการขายทอดตลาดย่อมต้องทำตามคำสั่งดังกล่าวด้วย การขายทอดตลาดที่ดินรายพิพาทจึงชอบด้วยกฎหมาย

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องจากเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่ 8600 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานครซึ่งเป็นของนางประทุม เสียงสุวรรณ จำเลยที่ 2 ปรากฏว่านายเล็ก จันทร์วรพฤกษ์ ผู้คัดค้าน ซื้อที่ดินได้เป็นเงิน250,000 บาท โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลว่า ที่ดินแปลงนี้เจ้าพนักงานบังคับคดีประเมินราคาในการยึดไว้ 300,000 บาท เจ้าพนักงานบังคับคดีขายให้ผู้คัดค้านในราคาต่ำ และก่อนที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะนับ 3 และเคาะไม้ โจทก์ขอเข้าสู้ราคา แต่เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่อนุญาต เป็นการขายโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยการบังคับคดีของเจ้าพนักงานบังคับคดีข้อ 83 จึงขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดี ผู้คัดค้านคัดค้านว่า การขายทอดตลาดเป็นไปโดยถูกต้องตามระเบียบและกฎหมายแล้ว ขอให้ยกคำร้อง โจทก์และผู้คัดค้านแถลงรับข้อเท็จจริงโดยไม่ติดใจไต่สวน ศาลชั้นต้นพิพากษายกคำร้องโจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “สำหรับข้อที่จะต้องวินิจฉัยข้อที่สองนั้นปรากฏข้อเท็จจริงจากการแถลงรับของโจทก์และผู้คัดค้านโดยไม่ติดใจไต่สวนว่า อธิบดีกรมบังคับคดีได้มีคำสั่งไว้ว่าในการประมูลขายทอดตลาดให้เจ้าพนักงานบังคับคดีนับหนึ่งถึงสอง แล้วนำเสนอรองอธิบดีเพื่อมีคำสั่งอนุมัติให้ขายตามราคาที่มีผู้ประมูลสูงสุดหรือไม่ เมื่อมีคำสั่งประการใดให้ถือว่าเป็นเด็ดขาด เจ้าพนักงานบังคับคดีจะปฏิบัติตามคำสั่งนั้น ในกรณีที่มีคำสั่งอนุมัติให้ขายเจ้าพนักงานบังคับคดีจะนับสามและเคาะไม้โดยไม่เปิดโอกาสให้มีการสู้ราคากันอีก คำสั่งของอธิบดีกรมบังคับคดีดังกล่าวได้ปิดประกาศให้ทราบโดยทั่วกันตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2530 ก่อนที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะขายทอดตลาดที่ดินพิพาท เจ้าพนักงานบังคับคดีได้แจ้งคำสั่งดังกล่าวให้ผู้ประมูลซื้อทรัพย์รวมทั้งโจทก์และผู้คัดค้านทราบแล้ว และกระทรวงยุติธรรมได้มีระเบียบว่าด้วยการบังคับคดีของเจ้าพนักงานบังคับคดีเกี่ยวกับการขายทอดตลาดไว้สำหรับข้อ 83 มีข้อความว่า “ข้อ 83 ตามปกติให้ผู้ขายร้องขานจำนวนเงินที่มีผู้สู้ราคาครั้งที่หนึ่ง 3-4 หน ถ้าไม่มีผู้สู้ราคาสูงขึ้นให้เปลี่ยนร้องขานเป็นครั้งที่สองอีก 3-4 หนเมื่อไม่มีผู้สู้ราคาสูงกว่านั้นและได้ราคาพอสมควรก็ให้ลงคำสามพร้อมกับเคาะไม้แต่ถ้าก่อนเคาะไม่มีผู้สู้ราคาสูงขึ้นไปอีกก็ให้ร้องขานราคานั้นตั้งต้นใหม่ตามลำดับดังกล่าวแล้ว” ในการขายทอดตลาดครั้งที่เป็นปัญหานี้ ปรากฏว่าเมื่อมีผู้ประมูลราคา 250,000 บาทเจ้าพนักงานบังคับคดีนับหนึ่งถึงสองแล้วนำเสนอรองอธิบดีกรมบังคับคดี รองอธิบดีกรมบังคับคดี พิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุมัติให้ขาย เจ้าพนักงานบังคับคดียังมิทันได้นับสามและเคาะไม้โจทก์ขอเข้าสู้ราคา เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่อนุญาต และได้นับสามพร้อมกับเคาะไม้
โจทก์ฎีกาว่า การขายทอดตลาดทรัพย์รายนี้โจทก์ขอสู้ราคาเพิ่มขึ้นอีกก่อนที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะเคาะไม้ขายทรัพย์รายพิพาท แต่เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่อนุญาตให้โจทก์สู้ราคากลับเคาะไม้ขายทรัพย์รายพิพาทไปตามคำสั่งของอธิบดีกรมบังคับคดีจึงเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 510และระเบียบกระทรวงยุติธรรม ว่าด้วยการบังคับคดีของเจ้าพนักงานบังคับคดี พ.ศ. 2522 ข้อ 83
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้การขายทอดตลาดรายพิพาทนี้ เจ้าพนักงานบังคับคดีมิได้อนุญาตให้โจทก์สู้ราคาทั้ง ๆ ที่ยังมิได้นับสามไม่เป็นไปตามระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยการบังคับคดีของเจ้าพนักงานบังคับคดี พ.ศ. 2522 ข้อ 83 แต่ก็หาเป็นการขัดต่อระเบียบดังกล่าวไม่ เพราะตามระเบียบดังกล่าวขึ้นต้นด้วยข้อความว่า “ตามปกติ” แล้วจึงมีข้อความอื่น ๆ ตามมาแสดงว่าระเบียบนี้มิได้บังคับตายตัว อาจจะตกลงหรือมีคำสั่งอันเป็นที่รับรู้กันแล้วปฏิบัตินอกเหนือไปได้ และในการนี้ก็ได้มีคำสั่งของอธิบดีกรมบังคับคดีออกมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 แล้วว่าในการขายทอดตลาดให้เจ้าพนักงานบังคับคดีนับหนึ่งถึงสองแล้วนำเสนอรองอธิบดีเพื่อมีคำสั่งอนุมัติให้ขายตามราคาที่มีผู้ประมูลสูงสุดหรือไม่ เมื่อมีคำสั่งประการใดให้ถือว่าเป็นเด็ดขาดเจ้าพนักงานบังคับคดีจะปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ในกรณีที่มีคำสั่งอนุมัติให้ขายเจ้าพนักงานบังคับคดีจะนับสามและเคาะไม้ โดยไม่เปิดโอกาสให้มีการสู้ราคากันอีก ซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีก็ได้ปฏิบัติตามคำสั่งอธิบดีกรมบังคับคดี ดังกล่าวทุกประการแล้ว กล่าวคือไม่อนุญาตให้โจทก์สู้ราคาอีกเพราะรองอธิบดีกรมบังคับคดีได้อนุมัติให้ขายได้แล้ว นอกจากนี้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 510บัญญัติว่า “ผู้ซื้อในการขายทอดตลาดจะต้องทำตามคำโฆษณาบอกขายและตามความข้ออื่น ๆ ซึ่งผู้ทอดตลาดได้แถลงก่อนเผดิมการสู้ราคาทรัพย์สินเฉพาะรายไป” และตามข้อเท็จจริงที่แถลงรับกันมาแล้วปรากฏว่า ก่อนที่จะขายทอดตลาดที่ดินรายพิพาท เจ้าพนักงานบังคับคดีได้แจ้งให้ผู้ประมูลซื้อที่ดินรวมทั้งโจทก์และผู้คัดค้านทราบคำสั่งของอธิบดีกรมบังคับคดีเกี่ยวกับการขายทอดตลาดแล้ว คำสั่งของอธิบดีกรมบังคับคดีดังกล่าวจึงเป็นคำโฆษณาบอกขายหรือข้อความอื่น ๆ ซึ่งผู้ขายทอดตลาดได้แถลงก่อนเผดิมการขายทรัพย์เฉพาะรายตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 510 ผู้ซื้อในการขายทอดตลาดย่อมต้องทำตามคำสั่งดังกล่าวนี้ด้วยการขายทอดตลาดรายนี้จึงชอบแล้ว”
พิพากษายืน

Share