แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในการซื้อขายสินค้าระหว่างโจทก์กับจำเลย โจทก์ยอมให้จำเลยชำระราคาสินค้าภายในกำหนด 60 วัน นับแต่วันที่จำเลยได้รับสินค้าดังนั้นในช่วงระยะเวลาดังกล่าวสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระราคายังไม่อาจบังคับได้ อายุความจึงต้องเริ่มนับเมื่อพ้นกำหนด 60 วันไปแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยซื้อแบตเตอรี่ไปจากโจทก์ มีกำหนดชำระราคาภายใน ๒๐ วัน นับแต่วันรับสินค้า จำเลยได้ร่วมกันสั่งจ่ายเช็คชำระค่าแบตเตอรี่ส่วนที่ยังค้างให้โจทก์แต่เช็คเรียกเก็บเงินไม่ได้ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระค่าสินค้าที่ค้างให้แก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้หลายประการ และให้การข้อหนึ่งว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นงดชี้สองสถานและงดสืบพยาน แล้ววินิจฉัยว่าคดีโจทก์ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๕ (๑) และมาตรา ๑๐๐๒ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นทำการสืบพยานโจทก์จำเลยในประเด็นอื่นตามคำฟ้องและคำให้การแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในการซื้อขายสินค้าระหว่างโจทก์จำเลยอันเป็นกรณีพิพาทกันนี้ โจทก์ยอมให้จำเลยชำระราคาได้ภายในกำหนด ๖๐ วัน นับจากวันที่จำเลยได้รับสินค้า ดังนั้นในช่วงระยะเวลาดังกล่าวสิทธิเรียกร้องจึงยังไม่อาจบังคับได้ การนับอายุความเพื่อบังคับตามสิทธิเรียกร้องจึงต้องเริ่มนับเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลา ๖๐ วันไปแล้ว เมื่อจำเลยได้รับสินค้าในวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๒๔ อายุความจึงต้องเริ่มนับในวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๒๕ โจทก์นำคดีมาฟ้องในวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๗ ซึ่งอยู่ในกำหนดระยะเวลา ๒ ปี จึงถือว่าไม่ขาดอายุความ
พิพากษายืน