คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2314/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยอ้างเอกสารเป็นพยาน โดยบัญชีพยานใช้ คำรวมว่า สรรพเอกสารซึ่งหมายถึงเอกสารหลายฉบับ ไม่สามารถรู้ได้ว่าเป็นเอกสารอะไรบ้าง แต่ก็มีข้อความต่อไปว่าที่เกี่ยวข้องกับโจทก์ พอถือได้ว่าจำเลยได้ยื่นบัญชีระบุพยานโดยชอบแล้ว เมื่อเอกสารที่จำเลยอ้างคือเอกสารซึ่งลอกมาจากสมุดบัญชีค่าจ้าง แสดงถึงค่าแรงค้างจ่ายของโจทก์ และเป็นแบบยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายแสดงเงินเดือนของโจทก์ ซึ่งเป็นเอกสารที่เกี่ยวกับประเด็นสำคัญในคดีโดยตรง จำเลยมีอำนาจนำพยานเอกสารดังกล่าวเข้าสืบได้ ถ้าโจทก์เห็นว่าเอกสารดังกล่าวไม่ถูกต้องอย่างไร ย่อมซักค้านได้ และเมื่อจำเลยแถลงหมดพยานแล้วโจทก์อาจแถลงขอสืบพยานที่เกี่ยวข้องมานำสืบหักล้างพยานเอกสารที่จำเลยนำเข้าสืบได้

ย่อยาว

โจทก์ทั้งสี่ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองค้างจ่ายค่าจ้างโจทก์ทั้งสี่ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าจ้างพร้อมทั้งเงินเพิ่มและดอกเบี้ยก่โจทก์ทั้งสี่
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยที่ ๑ ไม่ได้จ้างโจทก์ที่ ๑ และโจทก์ที่ ๒ เป็นลูกจ้าง จำเลยทั้งสองค้างค่าจ้างโจทก์ที่ ๓ และโจทก์ที่ ๔ จริงแต่น้อยกว่าจำนวนตามฟ้อง คำฟ้องเรื่องดอกเบี้ยเคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ชำระค่าจ้างให้โจทก์ที่ ๑ จำนวน ๑๔๖,๖๘๕ บาท ให้โจทก์ที่ ๒ จำนวน ๑๖๘,๐๐๐ บาท ให้โจทก์ที่ ๓ จำนวน ๒๒,๓๔๐ บาท และให้โจทก์ที่ ๔ จำนวน ๑๖,๑๓๖ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินของโจทก์นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์แต่ละคน
โจทก์ทั้งสี่สำนวนและจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ทั้งสี่สำนวนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยในเรื่องการทำพยานเอกสารเข้าสืบว่าแม้จำเลยทั้งสองจะมิได้อ้างเอกสารเป็นแต่ละฉบับ โดยใช้คำรวมว่า สรรพเอกสารซึ่งหมายถึงเอกสารหลายฉบับ ไม่สามารถรู้ได้ว่าเป็นเอกสารอะไรบ้าง แต่ก็มีข้อความต่อไปว่า ที่เกี่ยวข้องกับโจทก์ พอถือได้ว่าจำเลยทั้งสองได้ยื่นบัญชีระบุพยานโดยชอบแล้ว คดีนี้โจทก์ทั้งสี่ฟ้องว่า โจทก์แต่ละคนได้รับค่าจ้างเดือนละเท่าใด จำเลยทั้งสองยังค้างจ่ายค่าจ้างแก่โจทก์แต่ละคนเป็นจำนวนเท่าใด ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในคดี เอกสารที่จำเลยอ้างคือเอกสารหมาย ล.๔ ถึง ล.๖ ซึ่งออกมาจากสมุดบัญชีค่าจ้าง แสดงถึงค่าแรงค้างจ่ายของโจทก์ที่ ๑ ที่ ๓ ที่ ๔ ตามลำดับ และเอกสารหมาย ล.๗ เป็นแบบยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย แสดงเงินเดือนของโจทก์ที่ ๑ และที่ ๒ ในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ จึงเป็นเอกสารที่เกี่ยวกับประเด็นสำคัญในคดีโดยตรง จำเลยทั้งสองมีอำนาจนำพยานเอกสารดังกล่าวเข้าสืบได้ เมื่อโจทก์ทั้งสี่ซึ่งถูกต้องเอกสารดังกล่าวมายัน ย่อมซักค้านได้ และถ้าเห็นว่าเอกสารดังกล่าวไม่ถูกต้องอย่างไร โจทก์ทั้งสี่ที่เป็นฝ่ายนำสืบก่อน เมื่อจำเลยทั้งสองแถลงหมดพยานแล้ว โจทก์ทั้งสี่หาได้แถลงขอสืบพยานที่เกี่ยวข้องมานำสืบหักล้างพยานเอกสารที่จำเลยทั้งสองนำเข้าสืบไม่ ศาลแรงงานกลางย่อมมีอำนาจรับฟังพยานเอกสารของจำเลยทั้งสองได้ อุทธรณ์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share