คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 231/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยยิงปืน 2 นัด ไปยังท้ายรถยนต์โดยสารที่ตนขับตามหลังไปเนื่องจากความไม่พอใจที่มีการขับรถยนต์แซงปาดหน้าซึ่งกันและกันระหว่างจำเลยและพนักงานขับรถยนต์โดยสาร กระสุนนัดหนึ่งทะลุกลางฝากระโปรงที่เก็บของ และอีกนัดหนึ่ง ถูกเหนือไฟท้ายด้านขวา ต่ำกว่าที่ผู้โดยสารนั่งประมาณ 15 และ 10 ซ.ม. จำเลยย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำได้ว่าอาจทำให้ผู้โดยสารได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น
(เทียบคำพิพากษาฎีกาที่ 2118/2516)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยพาอาวุธปืนไปในเมืองและถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นทางสาธารณะ แล้วบังอาจใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงท้ายรถยนต์โดยสารซึ่งมีผู้โดยสารประมาณ ๓๐ คน ทั้งนี้โดยมีเจตนาจะฆ่าพนักงานขับรถยนต์โดยสารและผู้โดยสารซึ่งอยู่ในรถดังกล่าว แต่กระสุนปืนไม่ถูกพนักงานขับรถและผู้โดยสารแต่ถูกเหนือไฟท้ายและฝาปิดช่องเก็บของท้ายรถใกล้กับบริเวณที่ผู้โดยสารนั่งอยู่ทะลุ พนักงานขับรถและผู้โดยสารจึงไม่ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๐, ๒๘๘, ๓๗๑ พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๘ ทวิ, ๗๒ ทวิ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘, ๘๐ ลงโทษจำคุก และผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๘ ทวิ, ๗๒ ทวิ ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนซึ่งเป็นบทหนัก ลงโทษปรับ ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องฐานพยายามฆ่าผู้อื่น คืนอาวุธปืนและแม็กกาซีนบรรจุกระสุนปืนแก่จำเลย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยเป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงถูกท้ายรถยนต์โดยสาร ๒ นัด กระสุนปืนนัดหนึ่งถูกกลางฝากระโปรงที่เก็บของทะลุ อีกนัดหนึ่งถูกเหนือไฟท้ายด้านขวากระสุนไม่ทะลุ เนื่องจากความไม่พอใจที่มีการขับรถยนต์แซงปาดหน้าซึ่งกันและกันระหว่างจำเลยและนายไพฑูรย์พนักงานขับรถยนต์โดยสาร และวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงและกระสุนปืนไปถูกรถยนต์โดยสาร มีรูกระสุนปืนที่กลางฝาปิดท้ายรถและรอยกระสุนที่เหนือไฟท้ายด้านขวาต่ำกว่าที่นายไพฑูรย์ผู้โดยสารนั่งอยู่ประมาณ ๑๕ และ ๑๐ ซ.ม. ตามลำดับ หากลูกกระสูนปืนทะลุเข้าไปภายในรถก็อาจถูกผู้โดยสารซึ่งนั่งอยู่ในรถได้ โดยเฉพาะกระสุนนัดที่ถูกเหนือไฟท้ายรถด้านขวาหากสูงอีกเพียงเล็กน้อยก็จะโดนกระจกท้ายรถทะลุเบาะไปถูกผู้โดยสารเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต จำเลยย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำได้ว่าอาจทำให้ผู้โดยสารได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่บังเอิญกระสุนปืนไม่ทะลุเข้าไปภายในรถ การกระทำของจำเลยจึงไม่บรรลุผล จำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.

Share