แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ซื้อทาวน์เฮาส์ พิพาทไว้เพื่อจะขายต่อเอากำไร และได้ชำระเงินค่าทาวน์เฮาส์ ให้แก่ผู้ขายครบถ้วนแล้ว แต่ยังมิได้จดทะเบียนโอนกัน ดังนั้นการที่โจทก์ให้บริษัทผู้ขายโอนทาวน์เฮาส์ให้แก่บริษัท ย. โดยตรงโดยโจทก์ได้รับค่าตอบแทนจาก อ. แม้มิได้ทำสัญญาซื้อขายก็มีความหมายเช่นเดียวกับการขายทาวน์เฮาส์ มิใช่เป็นการขายสิทธิในการซื้อทาวน์เฮาส์ตามที่โจทก์อ้าง และถือได้ว่าเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางการค้าหรือหากำไร โจทก์จึงเป็นผู้ประกอบการค้า ต้องเสียภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากร มาตรา 77, 78 ประกอบด้วยบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภทการค้า 11
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161 บัญญัติไว้เป็นหลักทั่วไปว่า ความรับผิดชั้นที่สุดสำหรับค่าฤชาธรรมเนียมของคู่ความในคดีย่อมตกอยู่แก่คู่ความฝ่ายที่แพ้คดี ดังนั้น ศาลย่อมมีหน้าที่ต้องวินิจฉัยสั่งเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมตามกฎหมายอยู่แล้ว แม้จำเลยจะมิได้มีคำขอเกี่ยวกับค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ก็มีหน้าที่ต้องสั่งเกี่ยวกับเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เจ้าพนักงานประเมินของจำเลยที่ ๑ ได้ประเมินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และเงินเพิ่มให้โจทก์ชำระเป็นเงิน ๗๑๖,๓๙๙.๙๕ บาท โดยอ้างว่า โจทก์มีรายได้จากเงินเดือนและการขายทาวน์เฮาส์พร้อมที่ดิน และประเมินภาษีการค้า เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม และภาษีบำรุงเทศบาล รวมเป็นเงิน ๕๐๐,๙๙๕ บาท โดยอ้างว่าโจทก์มีรายรับจากการขายทาวน์เฮาส์พร้อมที่ดิน แต่มิได้ยื่นเสียภาษีการค้า โจทก์อุทธรณ์ต่อจำเลยที่ ๒ ถึงที่ ๔ ซึ่งเป็นคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ คณะกรรมการดังกล่าววินิจฉัยว่าการประเมินชอบด้วยกฎหมาย แต่ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและเงินเพิ่มให้เหลือเพียง ๔๕๓,๒๘๗.๙๖ บาท และลดภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลเหลือเพียง ๒๘๔,๗๗๙ บาท การประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ดังกล่าวไม่ถูกต้องเนื่องจากเงินได้จากการโอนขายทาวน์เฮาส์พร้อมที่ดิน ไม่เป็นเงินได้พึงประเมินตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๓๙ และมาตรา ๔๐ (๘) แต่เป็นเงินที่โจทก์ได้รับจากผู้รับโอนสิทธิการซื้อทาวน์เฮาส์พร้อมที่ดินโดยมิได้มุ่งในการค้าหรือหากำไร การโอนสิทธิไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โจทก์จึงไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และไม่ใช่ผู้ประกอบการค้า ขอให้พิพากษาว่าการประเมินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีการค้า ภาษีบำรุงเทศบาลและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้เพิกถอนการประเมิน และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ดังกล่าว
จำเลยให้การว่า โจทก์ซื้อทาวน์เฮาส์เพื่อเก็งกำไร มิใช่เพียงอยู่อาศัยจึงไม่ได้รับยกเว้นภาษีตาม มาตรา ๔๒ (๙) แห่งประมวลรัษฎากรและโจทก์ขายทาวน์เฮาส์เพื่อเก็งกำไร เป็นการประกอบการค้า ประเภทการค้าอสังหาริมทรัพย์ แม้ไม่มีการโอนทางทะเบียนก็ต้องถือเป็นการขาย การประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า เงินที่โจทก์ได้รับจากการโอนสิทธิที่จะได้รับโอนกรรมสิทธิ์ทาวน์เฮาส์พร้อมที่ดินให้แก่ผู้รับโอน เป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๘) แห่งประมวลรัษฎากร ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแต่ตามพฤติการณ์ถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้ประกอบการค้า จึงไม่ต้องเสียภาษีการค้าให้เพิกถอนการประเมินกับคำวินิจฉัยอุทธรณ์ที่ให้โจทก์เสียภาษีการค้า เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม และภาษีบำรุงเทศบาล จำนวน ๒๘๔,๗๗๙ บาท
โจทก์และจำเลยทั้งสี่อุทธรณ์ ต่อมาโจทก์ขอถอนอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ซื้อทาวน์เฮาส์พิพาทไว้เพื่อจะขายต่อเอากำไร หาใช่ต้องการซื้อไว้อยู่อาศัยเองไม่ โจทก์ได้ชำระเงินค่าทาวน์เฮาส์ให้แก่ผู้ขายครบถ้วนแล้ว เพียงแต่ยังมิได้มีการจดทะเบียนโอนกันเท่านั้น ดังนั้น การที่โจทก์ให้บริษัทผู้ขายโอนทาวน์เฮาส์ให้แก่บริษัทเยอร์เกนเซ่น อินเวสเม้นท์ แอนด์ เทรดดิ้ง จำกัด โดยตรง โดยโจทก์ได้รับค่าตอบแทนจากนางสาวอีนาร์ แม้มิได้ทำสัญญซื้อขายก็มีความหมายเช่นเดียวกับการขายทาวน์เฮาส์นั่นเอง มิใช่เป็นการขายสิทธิในการซื้อทาวน์เฮาส์ตามที่โจทก์อ้างและถือได้ว่าเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไรโจทก์จึงเป็นผู้ประกอบการค้า ต้องเสียภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๗๗, ๗๘ ประกอบด้วยบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภทการค้า ๑๑
ส่วนในปัญหาที่ว่า คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในส่วนที่เกี่ยวกับค่าฤชาธรรมเนียมเป็นการชอบหรือไม่นั้น เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๖๑ บัญญัติไว้เป็นหลักทั่วไปว่า ความรับผิดชั้นที่สุดสำหรับค่าฤชาธรรมเนียมของคู่ความในคดีย่อมตกอยู่แก่คู่ความฝ่ายที่แพ้คดี ดังนั้น ในการพิพากษาคดีแพ่ง ศาลย่อมมีหน้าที่ต้องวินิจฉัยสั่งเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมตามกฎหมายอยู่แล้ว คดีนี้แม้จำเลยจะมิได้มีคำขอเกี่ยวกับเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็มีหน้าที่ต้องสั่งเกี่ยวกับเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมด้วย คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในส่วนที่เกี่ยวกับค่าฤชาธรรมเนียมจึงเป็นการชอบแล้ว
พิพากษายืน.