แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์นำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโจทก์ยื่น รายการเสียภาษีการค้าตามใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้า สำหรับสินค้ารายพิพาทในอัตราร้อยละ 1.5 ของรายรับ โดยขอวางหลักประกันภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 7.0 ของรายรับและ ทำหนังสือขอให้นำเรื่องเสนอต่อ คณะเจ้าหน้าที่ประสานงานภาษีการค้าพิจารณาเกี่ยวกับอัตราภาษีการค้า ถ้าโจทก์ไม่วางหลักประกันจำเลยที่ 1 ก็ไม่ยอมปล่อยให้โจทก์นำเข้าซึ่งสินค้ารายพิพาทเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ 1 ได้เขียนสั่งการไว้ในใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้า ของโจทก์ให้โจทก์วางหลักประกันภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 7.0 แล้วส่งเรื่องให้คณะเจ้าหน้าที่ประสานงานภาษีการค้าพิจารณาดังนี้ถือได้ว่ามีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับภาษีการค้าสำหรับสินค้า รายพิพาทเกิดขึ้นแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โจทก์มีอำนาจฟ้อง
กระดาษลายน้ำมีตรานกวายุภักษ์ในวงกลมและพิมพ์ข้อความเป็นภาษาอังกฤษว่า THAI LOTTERY เป็นกระดาษลายน้ำมิใช่เอกสารหรือสิ่งตีพิมพ์ต้องเสียภาษีการค้าอัตราร้อยละ 7.0 ของรายรับตามบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภทการค้า 1 ชนิด 1 แห่ง ประมวลรัษฎากรหาใช่เสียภาษีการค้าอัตราร้อยละ 1.5 ของรายรับ ตามบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภทการค้า 1 ชนิด 6 ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์นำเอกสารสิ่งตีพิมพ์เป็นกระดาษลายน้ำมีตรานกวายุภักษ์ในวงกลมและพิมพ์ข้อความว่า THAI LOTTERY เข้ามาในราชอาณาจักรไทยเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารประเภทป้องกันการปลอมแปลง ใช้สำหรับพิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาลไทยโดยเฉพาะ จะนำไปจำหน่ายเป็นสินค้าเหมือนอย่างกระดาษธรรมดาทั่วไปไม่ได้ โจทก์ควรจะต้องเสียภาษีสำหรับสินค้ารายนี้ในอัตราร้อยละ ๑.๕ ของรายรับ ในฐานะเป็นเอกสารหรือสิ่งตีพิมพ์ ตามบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภทการค้า ๑ ชนิด ๖ แห่งประมวลรัษฎากร แต่จำเลยที่ ๑ เพื่อจำเลยที่ ๒ เรียกเก็บภาษีการค้าจากโจทก์ในอัตราร้อยละ ๗.๐ ของรายรับในฐานะเป็นสินค้าชนิด ๑ อันเป็นการเรียกเก็บเกินกว่าที่โจทก์ควรจะต้องเสียตามกฎหมาย โจทก์ขอชำระภาษีให้แก่จำเลยที่ ๑ ไปก่อนในอัตราร้อยละ ๑.๕ ของรายรับ และโจทก์นำหนังสือค้ำประกันของธนาคารมาวางเป็นประกันภาษีการค้าร้อยละ ๗.๐ แก่จำเลยที่ ๑ เพื่อให้จำเลยยอมปล่อยเอกสารสิ่งตีพิมพ์ดังกล่าวให้โจทก์นำเข้าได้ และโจทก์ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนขอให้พิจารณาสั่งให้โจทก์เสียภาษีการค้าในอัตราเพียงร้อยละ ๑.๕ ของรายรับแต่จำเลยทั้งสองหายอมสั่งตามที่โจทก์ร้องขอไม่ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันคืนหลักประกันแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย และถือว่าโจทก์เสียภาษีการค้าอัตราร้อยละ ๑.๕ ของรายรับเป็นการชอบแล้ว
จำเลยทั้งสองให้การว่า สินค้าที่โจทก์นำเข้าเป็นกระดาษลายน้ำ มิใช่เป็นเอกสารสิ่งตีพิมพ์ ต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ ๗.๐ ของรายรับ เจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ ๑ ยังมิได้ให้โจทก์เสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ ๗.๐ ของรายรับ โจทก์ก็วางประกันเพราะประสงค์จะรับสินค้าไปก่อน โจทก์ขอให้นำเรื่องเสนอคณะเจ้าหน้าที่ประสานงานภาษีการค้า จำเลยที่ ๑ ได้นำเสนอแล้วและคณะเจ้าหน้าที่ยังมิได้มีมติเกี่ยวกับอัตราภาษีการค้าทั้งยังมิได้แจ้งการประเมินภาษีการค้าไปยังโจทก์ จำเลยมิได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์และจำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์และจำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ ๑ อ้างว่า โจทก์ยื่นรายการเสียภาษีการค้าตามใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าสำหรับสินค้ารายพิพาทในอัตราร้อยละ ๑.๕ ของรายรับ โดยขอวางหลักประกันภาษีการค้าในอัตราร้อยละ ๗.๐ ของรายรับไว้เองเพื่อประสงค์จะรับสินค้าไปก่อน และโจทก์ได้ทำหนังสือตามเอกสารหมาย จ.๗ หรือ ล.๔ ขอให้นำเรื่องเสนอต่อคณะเจ้าหน้าที่ประสานงานภาษีการค้าหรือที่เรียกว่า ค.ป.ค. ให้พิจารณาเกี่ยวกับอัตราภาษีการค้า เจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ ๑ และคณะเจ้าหน้าที่ประสานงานภาษีการค้ายังมิได้สั่งการและทำคำชี้ขาดให้โจทก์เสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ ๗.๐ ของรายรับ การโต้แย้งสิทธิของโจทก์ยังไม่เกิดขึ้นและโจทก์ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้สิทธิทางศาล โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องนั้นปรากฏตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ว่า ถ้าโจทก์ไม่วางหลักประกันเช่นว่านี้จำเลยที่ ๑ ก็ไม่ยอมปล่อยให้โจทก์นำเข้าซึ่งสินค้ารายพิพาท และหนังสือของโจทก์ตามเอกสารหมาย จ.๗ หรือ ล.๔ จำเลยทั้งสองก็ไม่ยอมสั่งการให้ตามที่โจทก์ร้องขอจึงขอบังคับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนหลักประกันคือหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาสีลมตามฟ้องให้แก่โจทก์ โดยถือว่าโจทก์เสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ ๑.๕ ของรายรับ เป็นการชอบแล้ว และห้ามมิให้จำเลยทั้งสองเรียกเก็บภาษีการค้าจากโจทก์ในอัตราร้อยละ ๗.๐ ของรายรับ และจำเลยทั้งสองให้การโต้เถียงอ้างว่าสินค้ารายพิพาทเป็นกระดาษลายน้ำ มิใช่เอกสารหรือสิ่งตีพิมพ์ ต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ ๗.๐ ของรายรับ ตามบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภทการค้า ๑ ชนิด ๑ แห่งประมวลรัษฎากร และข้อเท็จจริงตามทางนำสืบก็ได้ความว่าเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ ๑ ได้เขียนสั่งการไว้ในใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าของโจทก์ ตามเอกสารหมาย จ.๒ หรือ ล.๑ ตรงช่องบันทึกพิธีการมีข้อความระบุให้โจทก์วางเงินประกันภาษีการค้าในอัตราร้อยละ ๗.๐ แล้วส่งเรื่องให้ ค.ป.ค. หรือคณะเจ้าหน้าที่ประสานงานภาษีการค้าพิจารณา และในที่สุดคณะเจ้าหน้าที่ดังกล่าวได้ทำคำชี้ขาดว่าสินค้ารายพิพาทของโจทก์ไม่ใช่สิ่งตีพิมพ์ โจทก์ต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ ๗.๐ ของรายรับ ดังนี้ ถือได้ว่ามีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับภาษีการค้าสำหรับสินค้ารายพิพาทของโจทก์เกิดขึ้นแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๕๕ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องและข้อเท็จจริงฟังได้ว่าสินค้ารายพิพาทของโจทก์เป็นกระดาษลายน้ำ มิใช่เอกสารหรือสิ่งตีพิมพ์ ต้องเสียภาษีการค้าอัตราร้อยละ ๗.๐ ของรายรับ ตามบัญชีอัตราภาษีการค้า ประเภทการค้า ๑ ชนิด ๑ แห่งประมวลรัษฎากร
พิพากษายืน