คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2296/2541

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 และที่ 2 ปลูกสร้างสะพานกว้าง 1 เมตรยาว 50 เมตร ลงในคลองสำโรง ผ่านหน้าที่ดินของโจทก์ในระยะห่างประมาณ 1 ถึง 2 เมตร สะพานมีลักษณะมั่นคงและถาวร การปลูกสร้างสะพานของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ดังกล่าวจึงเป็น ที่เล็งเห็นได้ว่า สะพานนั้นน่าจะหรืออาจทำให้โจทก์ได้รับ ความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายในการใช้ ที่ดินของโจทก์เป็นทางขึ้นหรือทางลงคลองสำโรง ดังนั้นแม้โจทก์จะมิได้อาศัยและทำประโยชน์อยู่ในที่ดินขณะปลูกสร้างสะพาน และการปลูกสร้างได้กระทำลงในคลองสาธารณะและ เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณชนดังข้ออ้างของจำเลยที่ 1 ที่ 2ที่ 3 และ 4 โจทก์ก็มีสิทธิจะฟ้องขอให้รื้อถอนสะพานที่ผ่านหน้าที่ดินของโจทก์เพื่อยังความเสียหายหรือเดือดร้อนนั้นให้สิ้นไปได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1337

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งห้าร่วมกันรื้อถอนสะพานพิพาทออกจากหน้าที่ดินของโจทก์ หากไม่ปฏิบัติตาม ให้โจทก์มีอำนาจรื้อถอนโดยจำเลยทั้งห้าเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย
จำเลยทั้งห้าให้การว่า โจทก์ไม่ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนจากการสร้างสะพาน ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ร่วมกันรื้อถอนสะพานพิพาทออกจากบริเวณหน้าที่ดินของโจทก์โฉนดเลขที่ 2279 ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลีจังหวัดสมุทรปราการคำขออื่นให้ยก ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 5
จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1ที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ด้วย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 2279 ตำบลบางพลีใหญ่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จำเลยที่ 1 และที่ 2 ปลูกสร้างสะพานขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 50 เมตร ลงในคลองสำโรงผ่านหน้าที่ดินของโจทก์ในระยะห่าง 1 ถึง 2 เมตร ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์มีว่าการปลูกสร้างสะพานก่อให้โจทก์ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนและจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 จะต้องร่วมกันรับผิดรื้อถอนออกไปหรือไม่ เห็นว่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1337 บัญญัติว่า บุคคลใดใช้สิทธิของตนให้เหตุให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อน ฯลฯ เจ้าของอสังหาริมทรัพย์มีสิทธิที่จะปฏิบัติการเพื่อยังความเสียหายหรือเดือดร้อนให้สิ้นไปข้อเท็จจริงคดีนี้ปรากฏว่า จำเลยที่ 1 และ ที่ 2 ปลูกสร้างสะพานกว้าง 1 เมตร ยาว 50 เมตร ลงในคลองสำโรงผ่านหน้าที่ดินของโจทก์ในระยะห่างประมาณ 1 ถึง 2 เมตร สะพานมีลักษณะมั่นคงและถาวร การปลูกสร้างสะพานของจำเลยที่ 1 และที่ 2ดังกล่าวจึงเป็นที่เล็งเห็นได้ในตัวว่า สะพานนั้นน่าจะหรืออาจทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายในการใช้ที่ดินของโจทก์เป็นทางขึ้นหรือทางลงคลองสำโรงดังนั้น แม้จะปรากฏว่าโจทก์มิได้อาศัยและทำประโยชน์อยู่ในที่ดินขณะปลูกสร้างสะพาน และการปลูกสร้างได้กระทำลงในคลองสาธารณะและเพื่อประโยชน์ต่อสาธารณชนดังข้ออ้างของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3และ 4 โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิจะฟ้องขอให้รื้อถอนสะพานที่ผ่านหน้าที่ดินของโจทก์เพื่อยังความเสียหายหรือเดือดร้อนนั้นให้สิ้นไปได้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ผู้ก่อสร้างสะพานจึงต้องรับผิดรื้อถอนสะพานดังกล่าวออกไปให้พ้นหน้าที่ดินของโจทก์ ส่วนจำเลยที่ 3 และที่ 4 นั้น ไม่ปรากฏจากการนำสืบของโจทก์ว่า จำเลยที่ 3 และที่ 4มีหน้าที่บำรุงรักษาคลองสำโรงแล้วปล่อยปละละเลยให้จำเลยที่ 1และที่ 2 ปลูกสร้างสะพานลงในคลองสำโรงจนแล้วเสร็จ หรือจำเลยที่ 3 และที 4 ร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ปลูกสร้างสะพานผ่านหน้าที่ดินของโจทก์ จำเลยที่ 3 และที่ 4 จึงไม่ต้องรับผิดรื้อถอนสะพานร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ฎีกาโจทก์ฟังขึ้นบางส่วน”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 รื้อถอนสะพานพิพาทออกจากบริเวณหน้าที่ดินโฉนดเลขที่ 2279 ตำบลบางพลีใหญ่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2

Share