แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
ในกรณีที่มีคำขอให้จ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับตามมาตรา 15 แห่ง พ.ร.บ.การพนันฯ ศาลจะพิพากษาให้จ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับได้ก็ต่อเมื่อมีการลงโทษปรับจำเลยด้วย เพราะจำนวนเงินค่าปรับจะต้องนำมาเป็นเกณฑ์ในการคำนวณว่าจะต้องจ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับเป็นจำนวนเท่าใด เมื่อคดีนี้ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกแต่อย่างเดียวโดยไม่ลงโทษปรับ จึงไม่อาจจ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 4, 5, 6,10, 12, 15 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ริบของกลาง และจ่ายเงินสินบนนำจับตามกฎหมาย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 4, 5, 6, 10, 12 (ที่ถูก มาตรา 12 (1)), 15 จำคุก 4 เดือน ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 เดือน ริบของกลางและจ่ายเงินสินบนนำจับตามกฎหมาย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาในทำนองว่า เงินสด 103,850 บาท ที่เจ้าพนักงานยึดได้เป็นของกลาง ไม่ใช่เงินที่ได้มาจากการเล่นการพนันทั้งหมดนั้น เห็นว่า คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องไว้ชัดแจ้งแล้วว่า เงินสด 103,850 บาท ที่เจ้าพนักงานยึดได้นั้นเป็นทรัพย์สินพนันซึ่งจับได้ในวงการเล่น เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ จึงเท่ากับรับว่าเงินสด 103,850 บาท ที่เจ้าพนักงานยึดได้นั้นเป็นทรัพย์สินพนันซึ่งจับได้ในวงการเล่น ฎีกาของจำเลยดังกล่าวจึงเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงที่จำเลยให้การรับสารภาพแล้ว ทั้งยังเป็นการยกข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ในชั้นฎีกา ซึ่งมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 4 อีกด้วย ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยฎีกาข้อนี้ของจำเลย
ส่วนที่จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษจำคุกนั้น เห็นว่า เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยได้พร้อมโพยหวยหุ้น 10 แผ่น เครื่องคิดเลข 2 เครื่อง ปากกา 5 ด้าม สมุดบัญชีรายรับรายจ่าย 1 เล่ม อันเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นการพนัน และเงินสด 103,850 บาท อันเป็นทรัพย์สินพนันซึ่งจับได้ในวงการเล่นเป็นของกลาง แสดงว่าจำเลยสามารถสนองตอบต่อผู้ประสงค์จะเล่นการพนันกับจำเลยเป็นจำนวนมาก พฤติการณ์แห่งคดีน่าเชื่อว่า จำเลยไม่ได้เป็นเพียงเจ้ามือการพนันรายย่อย จำเลยไม่ได้คำนึงว่าการกระทำของตนก่อผลโดยตรงให้ประชาชนลุ่มหลงมัวเมาในอบายมุขอย่างกว้างขวาง กระทบต่อเศรษฐกิจและความสงบสุขของสังคม ทั้งยังอาจเป็นบ่อเกิดของอาชญากรรมร้ายแรงอื่นตามมาอีกมากมาย พฤติการณ์นับว่าร้ายแรง การที่จะรอการลงโทษจำคุกและกำหนดมาตรการในการคุมความประพฤติแก่จำเลยจึงย่อมไม่เหมาะสมกับสภาพความผิดและไม่เพียงพอที่จะทำให้จำเลยเกรงกลัวหรือหลาบจำ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
อนึ่ง ในกรณีที่มีคำขอให้จ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับ ตามมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 ศาลจะพิพากษาให้จ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับได้ก็ต่อเมื่อมีการลงโทษปรับจำเลยด้วย เพราะจำนวนเงินค่าปรับจะต้องนำมาเป็นเกณฑ์ในการคำนวณว่าจะต้องจ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับเป็นจำนวนเท่าใด เมื่อคดีนี้ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกแต่อย่างเดียวโดยไม่ลงโทษปรับ จึงไม่อาจจ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับด้วย ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับด้วย จึงไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำขอให้จ่ายเงินสินบนนำจับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4