แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปแม้จำเลยจะให้การภาคเสธรับว่าได้ใช้ปืนยิงผู้ตายโดยป้องกันชีวิตและทรัพย์ก็ยังเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบให้เป็นที่พอใจของศาลว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง
เมื่อจำเลยนำสืบได้ว่าผู้ตายกับพวกเป็นคนร้ายปล้นโคของจำเลยและขู่ว่าจะทำร้ายจำเลยๆ จึงใช้ปืนยิงผู้ตายดังนี้ย่อมถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตและทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกับพวกสมคบกันใช้ปืนยิงนายดำตายโดยเจตนาฆ่า นายอ้นจำเลยที่ 1 ให้การว่าใช้ปืนยิงเพื่อป้องกันทรัพย์และชีวิตพอสมควรแก่เหตุนายโพธิ จำเลยที่ 2 ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณารวมกับสำนวนที่นายรินเป็นจำเลยแล้วพิพากษาจำคุกนายอ้นจำเลยตามกฎหมายอาญา มาตรา 249, 59 มีกำหนด 10 ปี ปล่อยนายโพธิ นายรินจำเลย
โจทก์และนายอ้นจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ยกฟ้องโจทก์ปล่อยนายอ้นจำเลยไปนอกจากนี้ยืน
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษนายอ้นจำเลย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีพยานอื่นใดที่จะแสดงให้เห็นว่านายอ้นจำเลยได้กระทำผิดดังข้อหา แม้นายอ้นจำเลยจะให้การภาคเสธรับว่าได้ใช้ปืนยิงผู้ตายโดยป้องกันชีวิตและทรัพย์สมบัติของจำเลยก็เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงอย่างไรก็ดีนายอ้นจำเลยนำสืบได้ว่าผู้ตายกับพวกเป็นคนร้ายปล้นโคของจำเลยและขู่ว่าจะทำร้ายจำเลย ๆ จึงใช้ปืนยิงผู้ตาย การกระทำของนายอ้นจำเลยเรียกได้ว่าเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์ของจำเลยพอสมควรแก่เหตุ
พิพากษายืน